มาลองทำความรู้จักหนุ่มแซ่บอย่าง มินโฮ หรือ ไค ฮอง ลี ในเรื่อง MAZE RUNNER
และถ้าลองสังเกตบรรดาตัวอย่างหนังใหม่หน้าโซเชียลมีเดียในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเราจะพบว่า สาวน้อย สาวใหญ่ เก้งกวาง บ่างชะนี ทั่วแผ่นดินสยาม จะโพสต์รูปน้อง มินโฮ ให้เพียบ จนจะว่าไปแล้วหน้าคุณน้องแกเองก็ดูท่าทางละม้าย คล้ายคลึงกับพี่ภพธร สุนทรญาณกิจ อยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว ซึ่งว่าก็ว่าเถอะ ไหนๆแล้วเราลองไปทำความรู้จักกับหนุ่มลูกครึ่งเอเชียคนนี้กันอย่างเป็นทางการกันเลยดีกว่า
โดยที่หนุ่ม ไค ฮอง ลี Ki Hong Lee คือชื่อแซ่จริงของหนุ่มคนนี้ เขาได้รับบทแสดงครั้งแรกในทีวีซีรีส์ Victorious เมื่อปี 2010 หลังจากนั้นมาเขาก็มีบทบาทรับเชิญเล็กๆในซีรียส์เรื่องต่างๆ อาทิ
- เรื่อง The Nine Lives of Chloe King
- เรื่อง Modern Family
- เรื่อง New Girl
ซึ่งเขาก็ ได้เล่นหนังสั้น มากมาย หลายเรื่อง เช่น
- เรื่อง This Is How We Never Met
- เรื่อง The Master Chef, Somewhere Like This
และก่อนที่เขาจะได้เล่นรอบหนังใหญ่ในปี 2013 ในชื่อเรื่อง Yellow Face ของผู้กำกับ เจฟฟ์ หลิว
ซึ่งสำหรับประวัติโดยคร่าวๆของ ไค ฮอง ลี นั้น เขาเป็นลูกครึ่งสัญชาติเกาหลี-อเมริกัน เกิดเมื่อวันที่ 2 มีนาคม ปี 1990 ในประเทศเกาหลีใต้ หลังจากที่เขาเติบโตมาในบ้านเกิดได้ 6 ขวบปี ทางบ้านก็ได้ย้ายสำมะโนครัวไปอยู่กันที่อัคแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์
และเมื่อสองปีให้หลังจากนั้น ไค ฮอง ลี ก็มีอายุแปดปีพอดิบพอดี ครอบครัวก็ได้ย้ายบ้านอีกครั้งไปอยู่ที่ลอสแองเจอลิสประเทศสหรัฐอเมริกา โดยที่จะว่าไปตั้งแต่ 8 ขวบมาลีก็ใช้ชีวิตหลังจากนั้นในบ้านลุงแซมมาโดยตลอด ก่อนที่เขาจะเข้าไปศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยที่ UC Berkeley
ซึ่งนอกจากงานเบื้องหน้าแล้ว ลี ยังรับหน้าที่ในการสร้างหนังสั้นของตัวเองเรื่อง
- Fratervention: The End of Bro'ing Out (2012) ที่เขาทั้งเขียนบท และเป็นโปรดิวซ์เองและอำนวยการสร้างด้วยตัวเอง นอกจากนี้เขายังแสดงเองอีกต่างหาก (แต่ในเรื่องลียังอวบอยู่มากทีเดียว) ลองเช็ครอบหนังดูผลงานของเขาได้ที่นี่
ซึ่งอย่างไรก็ตามภายหลังจากโปรแกรมหนังเรื่อง The Maze Runner แล้วก็ดูเหมือนว่าลียังไม่มีผลงานหนังใหญ่ในเร็ววันนี้ ตอนนี้เราก็คงได้แต่ลุ้นว่าทางฟอกซ์จะลงทุนกับการสร้างภาคต่อของวงกตมฤตยูหรือเปล่า เพราะแน่นอนว่าถ้ามีการสร้างภาคต่อแล้วบท “มินโฮ” จะกลับมามีบทบาทสำคัญในภาคต่อไปอย่างแน่นอน และแนวโน้มในการสร้างภาคต่อถือว่าค่อนข้างสูงมากเนื่องจากตอนนี้ ตัวหนังเก็บรายรับจากทั่วโลกไปแล้วทั้งสิ้น 81 ล้านเหรียญสหรัฐจากทุนสร้าง 34 ล้านเหรียญ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น