วันพุธที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2558

ดูหนังใหม่ประจำสัปดาห์19 - 25 มีนาคม 58

ดูหนังใหม่ประจำสัปดาห์19 - 25 มีนาคม 58



ดูโปรแกรมเนื่องด้วยคนรักหนัง ดูหนังใหม่ประจำสัปดาห์นี้ ระหว่าง พฤหัสบดีที่ 19 - 25 มีนาคม 2558 ในทุกโรงภาพยนตร์ฉบับล่าสุด!! คอหนังเข้าใหม่ไม่ควรพลาด!! อัพเดทใหม่ สดๆ ร้อนๆ!!!

   
เรื่องที่ 1 Zhong Kui ไม่ใช่หรือ จงขุย ศึกเทพฤทธิ์พิชิตมาร

หนังใหม่


วันที่หนังเข้าฉาย: 19-03-2015

เรื่องย่อหนัง

เวลาทุกๆ พันปีของวันที่ 15 กรกฎาคม ครั้นพระจันทร์เต็มดวง ทุกชีวิตจักข้ามภพข้ามการจุติใหม่ นรกเกิดความปั่นป่วนวุ่นวายปางจู่ๆ ของสำคัญอย่าง ผลึกดำ ถูกขโมยไปจากนรก จึงทำให้เหล่าปีศาจจึงออกตามหาผลึกดำที่ถูกขโมยไปที่โลกมนุษย์

ซึ่งอาจารย์จาง ได้เห็นถึงความเก่งของ จงขุย จึงมอบพลังอันยิ่งใหญ่เพื่อให้ จงขุย เอาไว้ปราบเหล่ามารทั้ง 3 ภพ บนสวรรค์ ในโลก และ ในขุมนรก แต่ว่าการที่จะปราบเหล่าปีศาจนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย จงขุยจึงต้องฝึกฝนพลังของตัวเองให้แข็งแกร่งกว่าปีศาจ แถมยังต้องรับหน้าที่ในการปกป้อง ผลึกดำ ก่อนที่จะถูกปีศาจแย่งชิงกลับไปยังนรกอีกครั้งหนึ่ง

ซึ่งในการไล่ล่าตามหา ผลึกดำ ในครั้งนี้ ก็ได้ทำให้ จงขุย ได้พบกับ ปีศาจหิมะ ทั้งสองต่างตกหลุมรักกันอย่างไม่รู้ตัว สุดท้ายแล้ว จงขุย จะปลงใจเเอิกเกริกกระหว่าง การปกป้องโลกมนุษย์ ใช่ไหม ความรัก

   
เรื่องที่ 2 Feel Good รู้สึกดีที่มีกัน



วันที่หนังเข้าฉาย: 19-03-2015

เรื่องย่อหนัง

เรื่องราวบรรลัยรักสุดซาบซึ้งของความรักจึงบังเกิดมี รักแท้วุ่นๆ ของการอยู่ร่วมฉบับผัวเมียมือใหม่ของ สยบชัย เชน ธนา พร้อมด้วย ราวี เอ๋ มณีรัตน์

ซึ่ง สยบชัย คือเซลล์แมนขายรถจอมซื่อบื้อ แต่ขายรถได้เก่งชะมัด จนเป็นที่อิจฉาของเพื่อนร่วมงาน ส่วน ราวี คือครูแนะแนวคนสวย ใจดีมีเมตตา การปรับปรุงบุคลิกภาพของ สยบชัย คือที่มาของความวุ่นวายสุดๆ ที่สนุกชวนลุ้นตามจนวินาทีสุดท้ายของเรื่อง ผสมกับมุมมองอีกด้าน คือ วัยวุ่นวัยเรียนเพียรศึกษา ของ ฟรุ้งฟริ้ง พิกเลท ซูการ์อาย ที่เป็นดาวโรงเรียนคนสวย กะ นิวนิว ฟลุ๊ค พงศธร ที่เป็นเพื่อนร่วมชั้นมอ 5/ 5 รูปหล่อเรียนเก่งสุดๆ ที่มักมีปัญต่างว่าับความรัก มิตรภาพ พร้อมทั้งการทำรายงานเรื่องความรักคืออะไร ที่ต้องค้นหาด้วยตนเอง ความสนุกสนานหลากแบบ หลากสไตล์ แล้วคุณจักเชื่อว่าความรักแอบอยู่ทุกที่ ความรู้สึกดีๆอยู่รอบตัวเราตลอดเวลา

 
เรื่องที่ 3 Insurgent คนกบฏโลก


  ตัวอย่างหนังใหม่

วันที่หนังเข้าฉาย: 19-03-2015

เรื่องย่อหนัง

เป็นการกลับมาอีกครั้งของไดเวอร์เจนท์สาวที่เกิดมา แตกต่าง เพื่อเปลี่ยนโลก ในภาคต่อของจอเงินแอคชั่นแฟนตาซีฟอร์มยักษ์แห่งปี Insurgent ที่จักกลับมาพร้อมความยิ่งใหญ่

หลังจากเปิดผนังการต่อสู้ครั้งใหม่ที่ทั้งเข้มข้นและยิ่งใหญ่ขึ้นไปกว่าเดิม! จุดตั้งต้นต้นแห่งการต่อสู้ครั้งใหม่ของ ทริซ เชย์ลีน วู้ดลีย์ เด็กสาวที่ย้ายจากกลุ่มผู้ปกครอง Abnegetion ไปอยู่กลุ่มผู้กล้า Dauntless ที่นั่นเธอได้ค้นพบแผนการชั่วร้ายที่จักยึดครองโลกของ เจอนีน เคท วินสเลต เธอเป็นหัวหน้ากลุ่มทรงปัญญา Erudite

ซึ่งนั่นทำให้ทริซต้องดึงความกล้าของตัวเองออกมาเพื่อต่อสู้ร่วมกับคนรักอย่าง โฟร์ ธีโอ เจมส์ ในการเปิดโปงความลับเหล่านี้ให้ได้ หลังจากการเผชิญหน้าครั้งใหญ่ที่ทะลวงมา ทริซ กับ โฟร์ ได้เดินทางไปยังเขตของกลุ่มสันติ Amity เพื่อขอความช่วยเหลือกระฉ่อนด้วยกันสร้างพันธมิตรที่จะร่วมมือกันต่อสู้กับเจอนีน

เช่นแต่ว่า สิ่งที่พวกเขาได้พบ คือ ความสุทธิที่น่าเหร่ำลือเชื่อยิ่งกว่า เพราะว่าท่ามกลางสงครามครั้งนี้ ความลับมากมายถูกเปิดโปง ความไม่สงบปะทุขึ้นระหว่างกลุ่มต่างๆ รอบตัวทริซ ที่ต้องพยายามรักษาชีวิตตนเอง รักษาคนที่เธอรัก กับเผชิญกับคำถามสำคัญของชีวิต ทริซได้เรียนรู้ว่า ในช่วงเวลาแห่งสงครามนั้นเราจำต้องเโจษกข้าง เหเลื่องลือเช่นการโอบรับสถานะไดเวอร์เจนท์อย่างเต็มภาคภูมิเท่านั้นให้เธอเฟุ้งเฟื่องกเดิน

ถึงแม้ว่าทริซจะไม่มีวันรู้เลยว่าต้องสูญเสียอะไรไปบ้างบนเส้นทางนี้ การเเล่าลือกทางเดินแต่ละครั้งสำคัญยิ่งนักเพราะอาจไม่ศักยย้อนกลับมาแก้ไขอะไรได้อีก การตกลงใจของทริซทำให้เธอพบความแน่นอนซึ่งจักนำมาสู่การเปลี่ยนแปลงโลกไปตลอดกาล

   
เรื่องที่ 4 2538 อัลเทอร์มาจีบ


  หนัง

    วันที่หนังเข้าฉาย: 19-03-2015

เรื่องย่อโปรแกรมหนัง

ในปี 2558 ในยุคที่ทุกอย่างดูรวดเร็วไปหมด ก้อง เนตั้น - แดนอรุณ รามณรงค์ เขาเป็นเด็กหนุ่มวัยรุ่นที่มีเฟซบุ๊กเป็นบ้านหลังที่สอง มีสมาร์ทโฟนเป็นปัจจัยที่ห้า เขามองว่าความรักก็เหมือนการเล่นไลน์ รักแล้วไม่ต้องรอ ส่งสติกเกอร์เดี๋ยวเดียวรู้เรื่อง ซึ่งแน่นอนว่าเขาไม่เคยเข้าใจความรักของพ่อแม่ที่กว่าจะรักกันได้ต้องใช้เวลาขนาดไหน แต่ว่าไม่ทันไร ก้องก็ได้รู้เรื่องสมใจ ตราบเขาไปเจอเพจเจอร์เก่ากึ๊กของพ่อที่อยู่ดีๆ ก็มีข้อความส่งมาให้โทรกลับ แต่บังเอิญสมาร์ทโฟนคู่ใจแบตหมด เขาจึงไม่รอช้าควักเหรียญหยอดตู้โทรศัพท์โทรไปเบอร์นั้นทันที!

และครั้งก้องลืมตาขึ้นมาอีกที ก็พบว่าตัวเองอยู่ในปี 2538 ปีที่วัยรุ่นทุกคนยังฟังเพลงพ้นเทปคาสเซ็ท วงดนตรีแนว อัลเทอร์เนทีฟอย่าง 1.วงพราว 2.อรอรีย์ 3.สไมล์บัฟฟาโล่ ที่กำลังโด่งดังแบบสุดๆ พร้อมทั้งที่สำคัญวัยรุ่นยังจีบกันลอดเพจเจอร์อยู่เลย ซึ่งก่อนที่เขาจะได้พบกับพ่อใช่ไหม ตั้มวัยหนุ่ม แวน - ชนินทร จิตปรีดา ด้วยกัน แม่ หรือ แหม่มวัยสาว โฟน - ชลกาญจน์ พวงน้อย ที่ยังเป็นวัยรุ่นอัลเทอร์ฯ สุดจี๊ดแต่นั่นยังไม่จี๊ดเท่ากับได้เจอ ส้ม ใบเฟิร์น - พิมพ์ชนก ระบือวิเศษไพบูลย์ เธอเป็นเด็กสาววัยรุ่นสุดเปรี้ยวสมชื่อที่เขาตกหลุมรักเธอรวดเร็วราวกับส่งสติกเกอร์ไลน์ จนต้องประสงค์เอาเธอมาจีบเสียเหระบือเกิน แต่ดูเหมือนจะผิดที่ผิดทางผิดเวลาไปหน่อย เพราะส้มคือมือที่สามที่จักมาแย่งตั้มไปจากแหม่ม พูดง่ายๆ ส้มคือตัวแปรสำคัญที่เกือบจะทำให้เขาไม่ได้เกิดมานั่นเอง!

ดังนั้นก้องจึงต้องพยายามทำทุกทางเพื่อให้พ่อกับแม่ได้สมหวังกัน ในขณะเดียวกันหัวใจเขาก็ได้เทให้ส้มไปหมดแล้ว เพราะว่าเธอคือคนที่ทำให้เขารู้ว่า ความรักก็เหมือนฟังเทป รักแล้วต้องรอ ไม่ใช่กรอไปฟังเพลงไหนก็ได้ งานนี้ได้แต่ร้องเพลงรอลุ้นว่าก้องจักทำอย่างไรกับปัญหาหนักใจในครั้งนี้ แล้วเขาจักกลับมายุคปัจจุบันเพื่อมาอัพสเตตัสเฟซบุ๊กได้อีกครั้งหรือไม่ก็ไม่?

ที่มา: http://movie.sanook.com/48649/

วันศุกร์ที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2558

ตัวอย่างหนังใหม่ Tomorrowland

ตัวอย่างหนังใหม่ Tomorrowland 

การผจญภัยนอน­สต๊อปสู่มิติใหม่


หนัง



หลังจากที่ได้ปล่อยตัวอย่างที่สองออกมา สำหรับภาพยนตร์แอ็คชั่นผจญภัยเรื่องใหม่จากค่าย วอลท์ ดิสนีย์ ผลงานผู้กำกับ 2 รางวัลออสการ์ แบรด เบิร์ด เรื่อง Tomorrowland ผจญแดนอนาคต

ซึ่งเรื่องราวของ แฟรงค์ อดีตเด็กอัจฉริยะ แสดงโดย จอร์จ คลูนีย์ ผู้เหนื่อยหน่ายและท้อแท้ และ เคซี่ แสดงโดย บริตต์ โรเบิร์ตสัน สาวน้อยผู้ปราดเปรื่อง ใคร่รู้ทางว­ิทยศาสตร์ ต้องร่วมภารกิจสุดอันตรายในการไขปริศนาของ­สถานที่ลึกลับที่อยู่ที่ไหนซักแห่งในห้วงเ­วลาและอวกาศที่รู้จักแค่ชื่อที่ถูกเรียกขา­นว่า ทูมอโรว์แลนด์ สิ่งที่เขาต้องทำที่นั่นจะเปลี่ยนแปลงโลก และพวกเขา ไปตลอดกาล

และจากบทภาพยนตร์โดย แบรด เบิร์ด และผู้เขียนบท-ผู้ร่วมสร้าง ลอสท์
เดมอน ลินเดลอฟ จากเรื่องราวโดย 1.ลินเดลอฟ, 2.เจฟฟ์ เจนเซ่น, และ 3.แบรด เบิร์ด

เรื่อง Tomorrowland -ผจญแดนอนาคต จะพาผู้ชมไปสู่การผจญภัยสุดตื่นเต้นแบบนอน­สต๊อปสู่มิติใหม่ที่เคยอยู่แค่ในฝันเท่านั­้น

ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้ยังมีนักแสดงเช่น

  1. ฮิวจ์ ลอว์รี่ ในบทแสดงเป็นนักวิทยาศาสตร์ผู้ชาญฉลาด 
  2. เดวิด นิกซ์
  3. รัฟฟีย์ แคสซิดี้ ในบทแสดงเป็น อะธีน่า
  4. โธมัส โรบินสัน เป็น แฟรงค์ ในวัยเด็ก 
  5. แคธรีน ฮาห์น
  6. ทิม แม็คกรอว์
  7. คีแกม-มิเชล คีย์
  8. จูดี้ เกรียร์


เรื่อง Tomorrowland – ผจญแดนอนาคต ได้อำนวยการสร้างโดย 1.เดมอน ลินเดลอฟ, 2.แบรด เบิร์ด, และ 3.เจฟฟรีย์ เชนอฟ และได้การกำกับโดย แบรด เบิร์ด ผู้อำนวยการสร้างบริหารโดย 1.เจฟฟ์ เจนเซ่น และ 2.จอห์น วอร์คเกอร์

หนังเข้าใหม่เตรียมออกผจญภัยไปสู่โลกอนาคต 28 พฤษภาคม 2558 ในโรงภาพยนตร์


ตัวอย่างหนังเรื่อง Tomorrowland



วันพฤหัสบดีที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2558

บทวิจารณ์หนัง PREDESTINATION

บทวิจารณ์หนัง PREDESTINATION


 หนัง


ตัวอย่างหนังใหม่เรื่อง PREDESTINATION



สำหรับตัวอย่างหนังเรื่อง PREDESTINATION ที่ดูเหมือนจะทำให้ผู้ชมเข้าใจผิดซะเหลือเกินว่ามันเป็นหนังแอ็คชั่นยิงกันหูดับตับไหม้ ไล่ล่ากับผู้ร้ายข้ามช่วงเวลา โดยมีฉากหลังเป็นโลกอนาคตสุดอลังการแปลกตา แต่เปล่าเลยตัวหนังเนื้อแท้ของมันบอกเล่าเรื่องราวที่เรียบกว่า นิ่งกว่า และให้ผู้ชมปะติดปะต่อเหตุการณ์ในเรื่องเข้ารวมกันทีละเล็กทีละน้อย เพื่อทำความเข้าใจกับประเด็นที่อยู่ในหนังทั้งหมด

แต่ว่าอันที่จริงแล้วหังเข้าใหม่เรื่อง PREDESTINATION นั้นจะได้บอกเล่าเรื่องราวของโลกอนาคตอันใกล้เมื่อเจ้าหน้าที่พิเศษอย่าง เดอะบาร์คีป หรือ อีธาน ฮอว์ค ได้รับหน้าที่ให้เดินทางข้ามกาลเวลาเพื่อไปหยุดยั้งอาชญากรรมและตามล่ามือระเบิดที่วางแผนระเบิดเมืองในอดีต แต่ก่อนที่เขาจะเสร็จสิ้นภารกิจและปลดเกษียณตัวเองออกจากการทำงาน ภารกิจสุดท้ายของเขาคือการเดินทางไปหาตัวเองในอดีตเพื่อชักชวนให้ตัวเอง เลือกจะมาทำงานเดียวกับที่เขาทำเพื่อตามล่าอาชญากรข้ามเวลา

สำหรับบทความนี้มีการสปอยล์เนื้อหาสำคัญของภาพยนตร์

และเนื่องจากหนังเปิดเรื่องราวมาที่ตัวละครเดอะบาร์คีปหลังจากที่เขาต้องผ่าตัดใบหน้าเนื่องจากถูกความร้อนจนหน้าเสียโฉม ใบหน้าใหม่ที่เขาได้รับมาจึงมีหน้าตาแบบ อีธาน ฮอว์ค หลังจากนั้นตัวหนังใหม่ก็วกกลับไปเล่าเรื่องราวของหญิงสาวคนหนึ่ง หรือ ซาร่าห์ สนู๊ค ที่เป็นเด็กกำพร้าที่ถูกคนเอามาปล่อยทิ้งไว้ เมื่อเธอเติบโตขึ้น เธอกลับรู้สึกว่าตัวเองนั้นแปลกแยกกว่าเด็กคนอื่นๆ ทว่าความสามารถพิเศษเฉพาะตัวที่โดดเด่นกว่าใครเพื่อน ทำให้เธอถูกรังเกียจจากสังคม

แต่ว่าอย่างไรก็ตามหลังจากที่มีองค์กรหนึ่งได้รับสมัครเจ้าหน้าที่หญิงในการเดินทางไปนอกโลกทำให้เธอเข้าฝึกฝนและกลายเป็นตัวเลือกแรกๆที่ทีมงานต้องการตัว แต่แล้วเธอก็ต้องผิดหวังเมื่อสุดท้ายองค์กรก็ไม่เลือกเธอเพราะเหตุทะเลาะวิวาท ความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ได้เกิดขึ้นกับเธอ เมื่อเธอได้ตั้งท้องและพบวาตัวเองนั้นมีอวัยวะเพศชายอยู่ในตัวเองด้วย หลังจากทำคลอดและพบว่าลูกของเธอโดนขโมยไปในคืนวันดังกล่าว มิหนำซ้ำโชคร้ายยังถาโถมไม่หยุดหย่อนเมื่อหมอแจ้งว่าเธอจะต้องถูกตัดรังไข่ทิ้งและต้องใช้อวัยวะเพศชายในการทำหน้าที่แทน

ซึ่งจะเห็นได้ว่าตัวละครหญิงของเรื่องนั้นต้องพบเจอกับความเปลี่ยนแปลงของชีวิตที่หนักหนาสาหัสมาก เมื่อชีวิตของเธอนั้นต้องต่อสู้กับความไม่เท่าเทียมตั้งแต่เด็กจนโต และที่ยากยิ่งกว่าคือการรับสภาพในการสูญเสียความเป็นแม่พร้อมกับต้องยอมรับความเป็นชายในวันเดียวกัน ตัวละครนี้เรียกได้ว่าเป็นคนที่สูญเสียอัตลักษณ์ทางเพศไปแบบไม่ทันตั้งตัว และความพยายามจะเป็น ผู้ชาย นั้นก็ค่อยๆ หล่อหลอมให้เธอเปลี่ยนแปลงทัศนคติตัวเองทีละเล็กทีละน้อย

แต่ทว่าภารกิจแรกในการที่ตัวเธอต้องย้อนกลับไปทำนั้นก็คือการกลับไปหาตัวเธอเองในสภาพผู้ชาย ที่ต้องย้อนเวลากลับไปหาตัวเองในตอนร่ำเรียนอยู่มหาวิทยาลัย การได้พบปะพูดคุยกับเธอจึงเป็นเหมือนการได้พบตัวเองและพูดในเรื่องที่ตัวเองเคยได้ยินมาแล้ว ณ ตรงจุดนี้เองเธอเลยเข้าใจแล้วว่าชีวิตของเธอนั้นถูกกำหนดมาให้เดิน วนซ้ำ เช่นนี้ต่อไป

ซึ่งการ วนซ้ำ ของเรื่อง PREDESTINATION นั้นคือการหมุนอยู่กับที่แบบไม่มีที่สิ้นสุดตราบใดก็ตามที่ ตัวเอง ในวัยแก่ของตัวละครอีธาน ฮอว์คหรือซาร่า สนู๊คยังคงเลือกจะฆ่าตัวเองทิ้งในตอนท้าย เหตุการณ์ทั้งหมดก็ยังคงจะเกิดซ้ำซากเช่นนี้ตลอดไป นั่นหมายความว่าเขาไม่อาจจะตัดบ่วงชีวิตของตัวเองทิ้งและหนังเรื่องนี้ก็คงจะไม่เกิดขึ้นมานั่นเอง

มอบให้ 4 คะแนนจาก 5 คะแนน

@พริตตี้ปลาสลิด



ที่มา: http://movie.sanook.com/48329/

วันพุธที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2558

หนังใหม่ Dead Rising

หนังใหม่ Dead Rising 

หนังซอมบี้จากค่าย Capcom ตามรุ่นพี่ผีชีวะมาแล้ว




ถ้าหากหนังซอมบี้รุ่นพี่อย่างเรื่อง ผีชีวะ Resident Evil ของค่าย Capcom นั้นประสบความสำเร็จไปแล้วหนึ่งเรื่อง ทางทีมงาน Capcom ก็ได้นำเกมแนวซอมบี้อีกเกมมาทำเป็นหนังแบบ Live-Action คนจริงแสดงดูอีกเรื่องนั่นก็คือเรื่อง Dead Rising เป็นเกมที่เน้นการต่อสู้เอาตัวรอดจากฝูงซอมบี้ครองเมืองแท้จริง เพราะในเกมมีซอมบี้มากมายเป็นหมื่นๆ ตัว ต่างจากผีชีวะที่เป็นซอมบี้ไม่กี่ตัว และมีพวกสัตว์ประหลาดชีวภาพปนๆ กันไป




ซึ่งหนังเรื่องนี้มีชื่อเป็นทางการว่า Dead Rising: Watchtower  ได้สร้างโดยได้รับความร่วมมือกับทาง Capcom ที่เป็นเจ้าของเกมเองเลย เพียงแต่มันไม่ใช่หนังฟอร์มใหญ่อะไร และเป็นหนังสั้นๆ ที่จะฉายให้ชมกันทางเว็บไซต์เท่านั้น

ซึ่งจะได้ฉายให้ดูกันทางเว็บ www.crackle.com/ ที่เป็นเว็บดูหนังออนไลน์ของทาง Sony เป็นหลักก่อนในวันที่ 27 มีนาคม 2015 นี้ ก่อนจะกระจายไปฉายทางอื่นต่อไป โดยจะฉายให้ดูกันทาง TV และมีขายแบบแผ่น DVD ด้วย




โดยที่เนื้อเรื่องของโปรแกรมหนังเข้าใหม่อย่าง Dead Rising: Watchtower  ก็จะอิงกับตัวเกมภาคแรก ที่ทาง Keiji Inafune เป็นอดีตคนทำเกม Rockman ได้เป็นผู้สร้างเรื่องนี้

และจะมีตัวละครหลักทั้งหมด 4 ตัว


  1. Jesse Metcalfe
  2. Meghan Ory
  3. Virginia Madsen
  4. Dennis Haysbert 


มาเป็นตัวดำเนินเรื่องในหนัง แต่ก็มีตัวเอกจากในเกมคือ Frank West แสดงโดย Rob Riggle มาร่วมมีบทในหนังด้วยเช่นกัน ผลงานการกำกับโดย Zach Lipovsky และเขียนบทหนังโดย Tim Carter

สำหรับหนังเรื่อง Dead Rising: Watchtower เป็นหนังสั้นจากเกมที่ถ่ายทำเน้นฉายทางเว็บ ไม่ใช่หนังที่ลงทุนมหาศาลอะไร ก็ขอให้คนเล่นเกมหรือคนชอบหนังแนวซอมบี้ดูกันเอาฮากันดีกว่า อย่าไปคาดหวังจริงจัง เพราะเดิมทีหนังจากเกมก็มีส่วนน้อยมากที่จะสนุก






วันจันทร์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2558

ตัวอย่างหนัง Age of Ultron , ผู้กำกับหนังใหม่ SPIDER-MAN

หนัง!!! อัลตรอน บุกเต็มกำลัง ดูตัวอย่างที่ 3 Avengers: Age of Ultron


 หนัง


เรื่องราวความเข้มข้น ระทึกได้ใจขึ้นเรื่อยๆ กับตัวอย่างหนังใหม่ของภาพยนตร์แอ็คชั่นฮีโร่ที่ทุกคนรอคอยอย่างเรื่อง Avengers: Age of Ultron ที่ตอนนี้ได้ทำการปล่อยทีเซอร์ตัวอย่างตัวที่ 3 ออกมาแล้ว กับการเตรียมทำลายล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์ของ อัลตรอน ตัวร้ายเบอร์ล่าสุด ที่เหล่าฮีโร่

  • ไอรอนแมน
  • กัปตันอเมริกา
  • ธอร์
  • ดิ อินเครดิเบิ้ล ฮัลค์
  • แบล็ค วิโดว์
  • ฮอว์คอาย 

นั้นต้องร่วมกันยับยั้งความวินาศนี้ให้ได้




สำหรับโปรแกรมหนังเรื่อง Avengers: Age of Ultron นั้นนำแสดงโดย

  1. โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ รับบทเป็น ไอรอนแมน 
  2. คริส อีแวนส์ รับบทเป็น กัปตันอเมริกา
  3. คริส เฮมสเวิร์ธ รับบทเป็น ธอร์ เทพเจ้าสายฟ้า
  4. มาร์ค รัฟฟาโร่ รับบทเป็น เดอะ ฮัลค์
  5. สกาเล็ตต์ โจแฮนสัน รับบทเป็น แบล็ค วิโดว์
  6. เจเรมี่ เรนเนอร์ รับบทเป็น ฮอว์คอาย
  7. แซมมวล แอล. แจ็คสัน รับบทเป็น นิค ฟิวรี่
  8. โคบี้ สมัลเดอร์ส รับบทเป็น เจ้าหน้าที่ มาเรีย ฮิลล์ 


ซึ่งทุกคนต้องร่วมมือกันกำจัด

  1. เจมส์ สเปเดอร์ รับบทเป็น อัลตรอน





ถ้าอย่างนั้นเราลองไปดูตัวอย่างที่ 3 ของ Avengers: Age of Ultron กัน ก่อนที่จะได้ชมกันแบบเต็มๆ ใน 29 เมษายน 2558 เวลา 1 ทุ่มเป็นต้นไป






ดูตัวอย่างหนังใหม่เรื่อง Age of Ultron




 มาดูผู้กำกับ SPIDER-MAN ฉบับมาร์เวลรีบูต!!




ก็คงจะพูดได้เลยว่าหนังเข้าใหม่เรื่อง สไปเดอร์แมน เป็นซูเปอร์ฮีโร่ที่ถูกรีบูตบ่อยที่สุดและถี่ที่สุดตัวหนึ่งของโลกภาพยนตร์เลยก็ว่าได้ เพราะว่าหลังจากที่ทางโซนี่และมาร์เวลได้เจรจากันเป็นที่เรียบร้อยลงตัวแล้ว การเอาแฟรนชายส์ไอ้แมงมุมกลับสู่บ้านเกิดของตัวเอง นั่นทำให้สตูดิโอมาร์เวลตกลงที่จะจ้างผู้กำกับฝีมือดีมีสไตล์เก๋แปลกแหวกแนวอย่าง ดรูวส์ กอดดาร์ด จากหนังสยองขวัญหักมุมคนดูจนหน้าหงายอย่างเรื่อง The Cabin in the Woods มารับหน้าที่ทั้งเขียนบทและกำกับไอ้แมงมุมภาครีบูต

หลังจากที่ ดรูวส์ กอดดาร์ด ไม่เป็นแค่เพียงตัวเลือกชั้นดีของทางสตูดิโออย่างมาร์เวลแล้ว แต่เขาเรียกได้ว่าเขามีสายสัมพันธ์และใกล้ชิดกับจักรวาลมาร์เวล ของซูเปอร์ฮีโร่เป็นอย่างมากเพราะเขาเป็นเพื่อนสนิทกับจอร์จ วีดอน มือเขียนบทให้กับเช็ครอบหนังรวมทีมฮีโร่อย่าง 1.The Avengers, 2.Avengers: Age of Ultron รวมไปถึงซีรีย์มาร์เวลที่สปินออฟออกมาอย่างเรื่อง Agents of S.H.I.E.L.D. อีกด้วย

แต่ว่าอันที่จริงแล้วตัวของ ดรูวส์ กอดดาร์ด นั้นเคยถูกวางตัวจากทางสตูดิโอโซนี่ ให้กำกับหนังสปินออฟจากเรื่อง The Amazing Spider Man 2 และเรื่อง The Sinister Six เป็นหนังรวมบรรดาวายร้ายตัวฉกาจของสไปเดอร์แมน แต่เนื่องจากทางโซนี่ได้เซ็นสัญญาแชร์คาแรกเตอร์ตัวนี้กับทางมาร์เวลทำให้โครงการสร้างหนังเรื่องนี้ถูกพับเก็บขึ้นชั้นไปก่อน รอเวลาที่เหมาะอีกทีคงจะได้สร้างกัน

และไม่เพียงเท่านั้นตัว กอดดาร์ด เองก็เพิ่งจะมีโอกาสได้เขียนบทให้กับซีรีย์ซูเปอร์ฮีโร่ในค่ายมาร์เวลอย่างเรื่อง Daredevil ในปีที่ผ่านมาด้วยแต่เขาเขียนบทไปได้แค่สองตอน แต่เขาก็ถอนตัวออกมาเพื่อจะดูแลงานสร้างให้กับเรื่อง The Sinister Six แต่ว่าเมื่อโครงการถูกพับไป ซึ่งเขาก็คงหัวเสียอยู่ไม่น้อยที่ต้องทิ้งโปรเจ็คเรื่อง Daredevil มา

แต่แล้วกลายเป็นว่าส้มเลยหล่นใส่ผู้กำกับคนนี้เข้าอย่างจังในการที่ มาร์เวล ได้เลือกตัวเขาให้มาดูแล Spider - Man เวอร์ชั่นรีบูตใหม่ครั้งนี้ และสิ่งที่น่าจับตามองต่อไปก็คือ ใครล่ะที่จะมาแสดงเป็นซูเปอร์ฮีโร่นักปล่อยใยคนต่อไป!


ที่มา: http://movie.sanook.com/48245/ , http://movie.sanook.com/48301/


วันศุกร์ที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2558

บทวิจารณ์หนังเรื่อง UNBROKEN

บทวิจารณ์หนังเรื่อง UNBROKEN




ถึงแม้ว่าหนังอย่างเรื่อง Unbroken นั้นจะตั้งใจนำเสนอวีรกรรมและความอดทนของบุคคลที่มีตัวตนอยู่จริงในประวัติศาสตร์อย่าง หลุยส์ แซมเปอร์รินี่ แต่ทว่าจุดขายของโปรแกรมหนังที่แท้จริงคือการเอาชื่อผู้กำกับหญิงอย่าง แองเจลิน่า โจลี่ มาขายเป็นหลัก เสียจนเราอาจจะกล่าวได้ว่า เราแทบจะสนใจในออร่ารัศมีของตัวโจลี่ มากกว่าจะไปโฟกัสตัวหนังเสียอีกด้วยซ้ำไป


ซึ่งจริงๆ แล้วผลงานการกำกับของโจลี่ชิ้นที่ 3 นี้ถือว่าทำออกมาได้สมน้ำสมเนื้อ เพราะตัวหนังมีสเกลของเรื่องที่เรียกได้ว่าใหญ่พอตัว เนื่องจากตัวหนังมีความเกี่ยวข้องกับเรื่องสงคราม ปรากฏฉากเครื่องบินรบ รวมไปถึงช่วงเวลาที่ตัวละครของเรื่องต้องไปลอยคออยู่กลางทะเล ก่อนที่จะโดนจับไปอยู่ในค่ายเชลยตอนท้ายเรื่อง ซึ่งแน่นอนว่าการคุมงานสร้างของโจลี่แม้ว่าจะออกมาน่าพอใจ แต่เมื่อลองหันกลับมามองในเรื่องตัวบทภาพยนตร์และวิธีการเล่าเรื่องของเธอแล้วจะพบว่าตัวหนังเข้าใหม่ค่อนข้างประสบปัญหาพอสมควร


โดยที่ แจ็ค โอคอนเนล ที่เป็นนักแสดงนำของเรื่องที่รับบทเป็น หลุยส์ แซมเปอร์รินี่ นั้นต้องรับหน้าที่ในการโอบอุ้มเช็ครอบหนังทั้งเรื่องไว้เลยทีเดียว เนื่องจากมันเล่าช่วงเวลาที่เขาต้องพยายามเอาชนะตัวเองในการวิ่งมาราธอนก่อนจะผันตัวเองไปวิ่งแข่งขันเป็นนักกีฬาในการแข่งขันโอลิมปิกโลก ซึ่งหนังก็เล่าช่วงเวลานี้แบบผ่านๆ ไม่ได้ให้ความสำคัญอะไรมากนัก


แต่ทว่าฝันของหลุยส์ นั้นก็ต้องดับวูบหายไปเมื่อเขาต้องเข้าไปร่วมเป็นพลทหารอากาศในกองทัพสหรัฐ ระหว่างที่เขาได้รับภารกิจในการบินไปลาดตระเวนนั้นเองเครื่องของเขาก็ถูกยิงตกลงในมหาสมุทรจนต้องลอยคอยอยู่กลางทะเลเป็นเวลาหลายสัปดาห์ ซึ่งพวกเขาก็ต้องเผชิญสภาพขาดน้ำ ขาดอาหารและโดนแสงแดดแผดเผาจนร่างกายไหม้ คล้ายๆ กับชีวิตพายใน Life of Pi แต่ที่ซวยหนักกว่าคือการที่เขาถูกกองทัพญี่ปุ่นพบและจับตัวไปเป็นเชลยสงครามในค่ายทหาร


และ ณ ในค่ายทหารนั้นเองหลุยส์ต้องเผชิญหน้า เดอะเบิร์ด 1.มิยาวิ, 2.ทาคามาสะ อิชิฮาระ ที่ใครๆ ก็ขนานนามว่าเขาเป็นจอมโหดแห่งค่ายเชลยสงครามที่มักจะลงมือลงไม้กับนักโทษเป็นประจำ และหลุยส์ก็ตกเป็นกระสอบทรายอยู่บ่อยครั้ง


ซึ่งสิ่งที่น่ากังขาก็คือ ความสัมพันธ์แบบทั้งรักทั้งเกลียดของ เดอะเบิร์ด และ หลุยส์ นั้น เรียกได้ว่าตัวดูหนังนำเสนอมาแล้วส่อกลิ่นโฮโมอิโรติกคลุ้งจอไปหมด เนื่องจากเคมีของนักแสดงชายทั้งสองคนดันเข้ากันแบบประหลาด ยิ่งแววตาโหยไห้ของฝ่ายญี่ปุ่นนั่นยิ่งสร้างความรู้สึกตะหงิดๆว่าจริงๆแล้ว เดอะเบิร์ดนั้นแอบชอบในความไม่ยอมแพ้ของหลุยส์ หรือคิดเป็นอื่นไกลไปกว่านั้นเราก็ไม่อาจจะรู้ได้เหมือนกัน เพียงแค่รู้สึกได้ว่าฉากนั้นส่งกลิ่นแปลกๆอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว


โดยถ้ามองในภาพรวมแล้วหนังใหม่อาจจะไม่ได้บันเทิง หรือน่าจดจำในทุกภาคส่วน แต่ถือว่าเป็นผลงานที่เรามองเห็นความตั้งใจของ แองเจลิน่า โจลี่ ในการถ่ายทอดเรื่องราวของหลุยส์ แซมเปอรินี่ได้ไม่เลวทีเดียวครับ

ให้ 3 คะแนนจาก 5 คะแนน

@พริตตี้ปลาสลิด


ที่มา: http://movie.sanook.com/48181/

วันอังคารที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2558

ฉากงานเต้นรำสุดอลังการในหนังเรื่อง Cinderella -ซินเดอเรลล่า

ทีมงานได้เนรมิตรฉากงานเต้นรำสุดอลังการ สะกดผู้ชมทั่วโลกในหนังเรื่อง Cinderella -ซินเดอเรลล่า




เป็นเวลานานมาแล้วที่สตูดิโอส์ วอลท์ ดิสนีย์ ได้สนใจในการที่จะนำรอบหนังเรื่อง Cinderella กลับมาสู่จอเงินอีกครั้ง เพื่อนำเสนอเรื่องราวอมตะนี้ให้กับผู้ชมศตวรรษที่ 21 อีกครั้ง เพื่อดึงเอาความรู้สึกเก่าๆ และความทรงจำดีๆ ของผู้คนนับล้านทั่วโลกกลับมาอีกครั้ง สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ภาพยนตร์เรื่องนี้จะต้องสร้างความบันเทิง และนำเอาความสนุกสนานและความเป็นมนุษย์มาสู่ตัวละครในเทพนิยายเรื่องนี้ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องรักษาองค์ประกอบที่น่าจดจำต่างๆ จากภาพยนตร์แแอนิเมชั่นคลาสสิกเอาไว้ด้วย




โดยที่ผู้กำกับ เคนเนธ บรานาห์ ที่ได้กำกับเรื่อง 1.Hamlet, 2.Thor นั้นไม่เคยคิดถึงไอเดียในการกำกับเทพนิยายมาก่อน แต่หลังจากได้อ่านบทที่เขียนโดย คริส ไวซ์ โดยที่เขาได้เขียนเรื่อง About a Boy ตัวเขาก็พบว่าเรื่องราวนี้โดนใจเขาในแบบที่เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนส่วน ทั้งยังได้ผู้อำนวยการสร้างอย่าง อัลลิสัน เชียร์เมอร์ ผู้ที่อำนวยการสร้างเรื่อง Pride and Prejudice and Zombies ก็จะเห็นได้ว่าหนังเรื่อง Cinderella นั้นเป็นหนึ่งในสมบัติภาพยนตร์ที่ล้ำค่าที่สุดตลอดกาลค่ะ มันเป็นหนังที่น่าตื่นตาตื่นใจ ดังนั้น ความรับผิดชอบในการสร้างมันขึ้นมาอีกครั้ง ก็เป็นสิ่งที่น่าหวั่นใจสำหรับทุกคนที่เกี่ยวข้อง แต่เรารักหนังต้นฉบับค่ะและเราก็ตั้งใจจะยกย่องมันด้วย

และสิ่งที่น่าสนใจอีกสิ่งหนึ่งของหนังเรื่องซินเดอเรลล่าปี 2015 ก็คือความวิจิตรสวยงามของฉากต่างๆ ที่ ฟรานเชสกา ลอสชิอาโว-เฟอร์เร็ตติ ได้ออกแบบและสร้างขึ้นมา เช่น ปราสาทพระราชา ซึ่งเป็นโครงสร้างขนาดใหญ่ที่มีบันไดขนาดมหึมา สวนดอกไม้อันสวยงาม น้ำพุที่วิจิตรบรรจง บ้านสมัยเด็กของเอลล่า และที่สำคัญที่สุด ห้องบอลรูมขนาดใหญ่ของปราสาท ที่เอลล่าปรากฏตัวแบบสะกดทุกสายตาและได้เต้นรำกับเจ้าชาย




ซึ่งทาง ไซมอน คินเบิร์ก ได้กล่าวว่า ภาพยนตร์ส่วนใหญ่จะสร้างห้องบอลรูมขึ้นด้วยเอฟเฟ็กต์ CG แต่ไม่ใช่เรื่องนี้ มันเป็นเรื่องสำคัญจริงๆ สำหรับ ดันเต้ และ เคน ที่จะสถานที่แห่งนี้ ซึ่งเป็นสถานที่ทีสำคัญที่สุดในเรื่อง และหนึ่งในฉากที่โดดเด่นที่สุดตลอดกาลนี้ จะให้ความรู้สึกว่าเป็นของจริงครับ เขากล่าวว่า

ตัวของเฟอร์เร็ตติและทีมงานนั้น ได้สร้างห้องบอลรูมที่กว้างขวางและหรูหรา ด้วยความยาว 50 หลา กว้าง 35 หลาและสูง 30 ฟุต มันมีบันไดขนาดใหญ่ที่ลงไปสู่ห้องบอลรูม พื้นหินอ่อนและผนัง รูปปั้นทองคำ ดอกไม้นับพัน ภาพศิลปะประดับตกแต่ง และผ้าม่านที่ตัดเย็บด้วยผ้ากว่า 2000 หลา

และนอกจากนี้ ในห้องบอลรูมยังประกอบไปด้วย แชนเดอเลียร์ ขนาดใหญ่ 17 อันจากอิตาลี ซึ่งมีเทียนน้ำมันเกือบ 5,000 แท่ง ที่ต้องจุดด้วยมือทั้งหมด สำหรับแชนเดอเลียร์ที่ประดับทางเดินที่นำไปสู่ห้องบอลรูมและตัวบอลรูมเองนั้น ฟรานเชสกา ลอสชิอาโว-เฟอร์เร็ตติ ต้องการให้พวกมันหรูหราที่สุด

โดยท้ายที่สุดแล้ว แชนเดอเลียร์เหล่านั้นจึงถูกสั่งทำจากเวนิสและออกมางดงามดุจงานศิลปะ บรานาห์และเฟอร์เร็ตติได้พูดคุยกันหลายครั้ง และทั้งคู่ก็เห็นพ้องต้องกันว่าพวกเขาสามารถเทน้ำหนักไปที่ฉากจริงๆได้ ดังนั้นทุกอย่างก็เลยถูกสร้างขึ้นในซาวน์สเตจหรือโรงถ่าย กระบวนการออกแบบของเฟอร์เร็ตติรวมถึงการร่วมงานกับเพื่อนผู้ร่วมงานกับเขามาแล้วหลายครั้ง ฟรานเชสกา ลอสเชียโว-เฟอร์เร็ตติ ผู้ตกแต่งฉากที่เขาร่วมงานด้วยมากว่า 30 ปี เขาอธิบายว่า ผมวาดภาพสเก็ตช์ทั้งหมด แล้วฟรานเชสกาก็จะตรวจสอบทุกกอย่างเพื่อทำให้แน่ใจว่ารายละเอียดทั้งหมดจะถูกต้อง แต่เราก็ไม่อยากให้มันดูเพอร์เฟ็กต์เกินไป เราก็เลยจงใจปล่อยความผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ ไว้บ้าง เพื่อให้มันให้ความรู้สึกที่สมจริงยิ่งขึ้นน่ะครับ




และริชาร์ด แมดเดน ได้กล่าวว่า ฉากในโปรแกรมหนังเรื่องนี้มีบุคลิกมากพอๆ กับตัวละคร ซึ่งช่วยบอกเล่าเรื่องราวของตัวละครเหล่านี้ได้ มันทำให้ผู้ชมได้เห็นอะไรสวยๆงามๆ เป็นอาหารตาและเป็นแรงบันดาลใจให้นักแสดงด้วยครับ การมีอะไรที่สมจริงและชัดเจนแบบฉากพวกนี้ทำให้ทุกอย่างให้ความรู้สึกที่สมจริงมากขึ้นและพิเศษสุดมากขึ้นด้วยครับ

ซึ่งสำหรับฉาก งานเลี้ยงที่ทางพระราชวังได้จัดขึ้น เคนเนธ บรานาห์ ต้องการจะเห็นห้องบอลรูมที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดที่จะจินตนาการได้ ฉากนี้ถูกสร้างขึ้นที่ ไพน์วู้ด สตูดิโอส์ ในซาวน์สเตจ 007 ที่โด่งดัง มันเป็นซาวน์สเตจขนาดใหญ่ท่สุด ซึ่งเคยต้อนรับกองถ่ายขนาดใหญ่หลายร้อยเรื่องมาแล้ว

ทางลิลลี เจมส์ ได้เห็นด้วยและกล่าวว่า ตอนที่ฉันเข้าไปครั้งแรก มันน่าทึ่งมาก ห้องบอลรูมเป็นสิ่งที่วิเศษที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็นมา และตอนที่ฉันเข้ามา แล้วทุกคนมองมาที่ฉัน ฉันก็กลัวมาก แต่มันก็เป็นไฮไลท์ของหนังเรื่องนี้สำหรับฉันเหมือนกันค่ะ

และเคท บลังเช็ตต์ ได้กล่าวเสริมเอาไว้ว่า ตอนที่ฉันเดินเข้าไปในฉากห้องบอลรูม ฉันนั้นตะลึงเลยค่ะ ซึ่งมันเป็นเหมือนช่วงเวลาเอ็มจีเอ็ม เทคนิคคัลเลอร์ และในแง่ของหนังเข้าใหม่แล้ว ฉันก็รู้สึกเหมือนฉันได้ย้อนเวลากลับไป ในตอนที่ซินเดอเรลลาและเจ้าชายเต้นรำกัน มันก็น่าประทับใจอย่างสุดซึ้งค่ะ

ทางด้านอัลลิสัน เชียร์เมอร์ ได้เล่าถึงครั้งแรกที่เธอเดินเข้าไปในฉากนี้ว่า ฉันทึ่งมากที่ได้เห็นว่าสถานที่นั้นใหญ่โตแค่ไหน มันเป็นถ้ำซีเมนต์ที่กว้างขวางประมาณสนามฟุตบอลหลายสนาม และดันเต้ เฟอร์เร็ตติก็ได้ออกแบบและสร้างห้องบอลรูมความสูงสามชั้นเต็มพื้นที่ของทั้งสเตจ และเปลี่ยนมันให้กลายเป็นห้องที่สวยที่สุดเท่าที่คุณจะจินตนาการได้ การเดินเข้าไปในฉากนั้นเหมือนการก้าวเข้าสู่สถานที่ที่อยู่ในหนังสือนิทานและเทพนิยายเท่านั้นน่ะค่ะ

ซึ่งมันจะต้องมีความอลังการเป็นช่วงเวลาที่สะกดทุกลมหายใจ ในตอนที่เอลล่าเข้าห้องมาครั้งแรก แต่มันก็ต้องมีความสดใส และไม่น่าหวั่นเกรงเกินไปน่ะครับ ตอนที่ลิลลีเข้าห้องบอลรูมครั้งแรกระหว่างซีเควนซ์นั้น มันก็เป็นหนึ่งในวันที่น่าตื่นเต้น น่าประทับใจและงดงามที่สุดในอาชีพการทำงานของผม แม้แต่ช่างกลไกและช่างแต่งหน้าที่กร้านโลกที่สุดยังมีน้ำตารื้นขึ้นมาเลยครับ ดันเต้มีเซนส์ด้านความคิดเฉียบแหลมและเซนส์ด้านสไตล์ที่ไม่เกินเลยไป ไม่อ่อนเกินไป ไม่วิจิตรเกินไป ไม่แฟนซีเกินไป แต่ก็หรูหรามากๆ ห้องบอลรูมนำเสนอทุกอย่างที่คุณคาดหวัง และแม้ว่ามันจะทำให้นึกถึงภาพของห้องบอลรูมที่โด่งดังอื่นๆจากเวียนนา ปารีสหรือลอนดอน มันก็มีความโดดเด่นในตัวมันเองครับ บรานาห์ กล่าวสรุป

ในปัจจุบันนี้ เมื่อ 65 ปีให้หลังหนังเรื่อง Cinderella ได้กลายเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่ล้ำค่าที่สุดของสตูดิโอ ภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกรวมอยู่ในลิสต์ 10 ภาพยนตร์แอนิเมชั่นยอดเยี่ยมตลอดกาล ของสถาบันภาพยนตร์อเมริกา และไม่เคยหายจากกระแสป็อปคัลเจอร์ของอเมริกา Cinderella ซินเดอเรลล่า ผลงานภาพยนตร์เรื่องล่าสุด วอลท์ ดิสนีย์ สตูดิโอส์ โมชั่น พิคเจอร์ส 12 มีนาคม 2558 ในโรงภาพยนตร์

ที่มา: http://movie.sanook.com/48129/


ตัวอย่างหนังใหม่เรื่อง Cinderella




วันพฤหัสบดีที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

สตีเว่น สปีลเบิร์กอยากได้คริส แพรตต์ เล่น INDIANA JONES

ลือหรือจริง!! สตีเว่น สปีลเบิร์กอยากได้คริส แพรตต์ 

มาเล่นบท INDIANA JONES รีบูต




ซึ่งดูเหมือนว่าจะกลายเป็นหนังอีกหนึ่งโปรเจ็คที่สตูดิโอหมายมั่นปั้นมือจะเอาของเก่ากลับมาหากินกันอีกรอบ เพราะเมื่อเดือนก่อนนี้มีการรายงานข่าวออกมาว่าทาง ดิสนีย์ เอง ได้เล็ง คริส แพรตต์ ดาราที่กำลังหุงขึ้นหม้อจากหนังซูเปอร์ฮีโร่ค่ายมาร์เวลจากโปรแกรมหนังเรื่อง Guardians of the Galaxy เพื่อมาสวมบทเป็น อินเดียนน่า โจนส์ คนใหม่หลังจากที่บทนี้เคยเป็นของคุณลุงแฮร์ริสัน ฟอร์ดมาร่วม 4 ภาค และที่น่าตื่นเต้นไปมากกว่านั้นคือทางตัวผู้กำกับอย่างสตีเว่น สปีลเบิร์กเองก็อยากจะกลับมากุมบังเหียนรับหน้าที่เป็นผู้กำกับด้วย

แต่ว่าทั้งหมดทั้งมวลนั้นก็ยังอยู่ในขั้นตอนของการเตรียมงานและมีความเป็นไปได้สูงที่โครงการนี้จะถูกต่อยอด เพราะหลังจากที่ Indiana Jones and the Kingdom of the Crystal Skull ในปี 2008 ที่สปีลเบิร์กก็กลับมากำกับเอง แต่ว่าเสียงวิจารณ์ค่อนข้างก้ำกึ่ง แม้ว่ารายได้ทั่วโลกจะน่าพอใจและทำกำไรให้กับสตูดิโอพาราเมาต์ ซึ่งถือสิทธิ์ในการสร้าง Indiana Jones ในเวลานั้น ถึง 786 ล้านเหรียญเลยทีเดียว

และอย่างไรก็ตามแม้ว่าโครงการนี้อาจจะอยู่ช่วงพูดคุย จนเป็นข่าวลือ ออกมาเป็นระลอก แต่ในปีนี้สปีลเบิร์กเองก็มีแผนงานในการดัดแปลงภาพยนตร์จากหนังสือนิยายเรื่อง The BFG ซึ่งนิยายเล่มนี้เป็นวรรณกรรมเยาวชนที่แต่งขึ้นโดยโรอัน ดาล ซึ่งคงเดินหน้าเปิดกล้องในช่วงฤดูใบไม้ผลิปีนี้

โดยในด้าน คริส แพรตต์ ที่นอกจากปีนี้เขาจะมีหนังใหญ่อย่างเรื่อง Jurassic World แล้วก็มีหนังที่กำลังจะเปิดกล้องอย่างเรื่อง The Magnificent Seven หนังรีเมคแนวคาวบอยตะวันตกใน 1960 ซึ่งเคยเป็นหนังที่ทำให้ดาราในตำนานอย่างสตีฟ แมคควีนโด่งดังเป็นพลุแตก และสร้างราศีจับให้กับนักแสดงคนอื่นๆในเรื่องด้วย ตัวหนังในเวอร์ชั่น 2015 กำกับโดยอองตวน ฟูควา ซึ่งในเรื่องจะมีนักแสดงชื่อดังมาร่วมกันเล่นอย่างคับคั่งอาทิ

  • เดนเซล วอลชิงตัน
  • ฮาเลย์ เบนเนตต์ 


ที่มา: http://movie.sanook.com/47901/

วันพุธที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

สกาล่าเกือบโรงแตก!หนังเรื่อง NIGHTCRAWLER

สกาล่าเกือบโรงแตก

ปรากฏการณ์โซเชียลมีเดียหนังเรื่อง NIGHTCRAWLER




โดยนี่เป็นยุคที่เราต้องยอมรับกันจริงๆว่ากระแสในโลกโซเชียลมีเดียและข่าวสารบนโลกอินเตอร์เนตนั้นทำให้คนในแวดวงสังคมและ คนรักหนัง นั้นตื่นตัวกันเป็นอย่างมาก

โดยหลังจากที่กระทู้ต่างๆ บนเว็บไซต์กระทู้ชื่อดังนั้นได้ตั้งคำถามถึงเหตุผลของการที่หนังเรื่อง NIGHTCRAWLER ไม่ได้เข้าฉายกันอย่างต่างๆ นานา

และถ้าอยากรู้ว่ามีประเด็นและกระทู้อะไรบ้าง สามารถพิมพ์ชื่อหนัง NIGHTCRAWLER แล้วค้นหาเองได้เลยครับ




แต่ว่าอย่างไรก็ตามกระแสการเรียกร้องให้มีการฉายหนังใหม่เรื่อง NIGHTCRAWLER ก็เรียกได้ว่ามาแรงมากในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยหลังจากที่บรรดาสื่อมวลชนและนักวิจารณ์หนังได้มีโอกาสชมหนังเรื่อง NIGTHCRAWLER ในโรงภาพยนตร์ลิโด้แบบเหมารอบเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาและเมื่อหนังจบผู้มีโอกาสได้ชมภาพยนตร์ในรอบนั้นต่างก็ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อภาพยนตร์เรื่องนี้กันอย่างแพร่หลายในโลกอินเตอร์เน็ตจนสร้างกระแสความอยากชมให้กับประชาชนอีกมากมายที่ยังไม่ได้ดูหนัง จนค่ายหนังยูไนเต็ดโฮมเอนเตอร์เทนเมนต์

จนต้องเปิดรอบแบบเหมาโรงเพื่อวันอาทิตย์ที่ 22 กุมภาพันธ์นี้ ที่โรงภาพยนตร์สกาลา รอบ 14.15 นาฬิกา ที่โรงภาพยนตร์สกาล่า โดยเวลาขายบัตรเริ่มตั้งแต่ 9.00 นาฬิกาผลปรากฏว่ามีคนมีรอต่อคิวซื้อบัตรชมภาพยนตร์ยาวจนน่าตกใจ ยิ่งไปกว่านั้นรายงานจากผู้ชมที่ซื้อบัตรในช่วงเวลาเช็ครอบหนังใกล้ฉายก็ปรากฏว่าโรงหนังที่สามารถจุคนได้เกือบ 800 คนนั้นเต็มเกือบทุกที่นั่ง




และนอกจากกระแสดราม่าแล้ว การที่หนังอย่างเรื่อง Nightcrawler มีผู้ชมอยากจะชมภาพยนตร์เรื่องนี้กันอย่างมากมายเนื่องจากมันเป็นหนังอีกหนึ่งเรื่องที่บรรดาคอหนังคุณภาพต่างทราบสรรพคุณว่า หนังนี่เป็นหนังที่ถูกออสการ์เมินมากที่สุดเรื่องหนึ่งของปี

เพราะว่าหลังจากการที่ เจค จิลเลนฮาล วืดหลุดโผไม่ได้ติดเข้าชิงรางวัลนักแสดง นำชาย ปีนี้ไปอย่างน่าตกใจ ซึ่งก็คงไม่ต้องพูดอีกเช่นกันว่าคนที่เหมาะสมน้อยที่สุดในบรรดานักแสดงนำชายทั้ง 5 คนที่เข้าชิงรางวัลนั้นก็คือ แบรดลีย์ คูเปอร์จาก American Sniper

และสำหรับความโดดเด่นของเรื่อง Nightcrawler นั้นคือมันเป็นหนังแอ็คชั่นทริลเลอร์ที่ใครได้ชมแล้วก็ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่านอกจากหนังจะ สนุกมาก แล้วหนังยังสะท้อนด้านมืดของวงการสื่อมวลชนได้อย่างเจ็บแสบ เรื่องหนึ่งเลยทีเดียว

เพราะเนื่องจากมันเล่าเรื่องของ หลุยส์ บลูม หรือ เจค จิลเลนฮาล ที่เป็นนักข่าวอิสระผู้เกรี้ยวกราด ผู้ทุ่มเทตระเวนเก็บภาพเหตุการณ์อาชญากรรมทั่วเมืองลอสแอนเจลลิสเพื่อเอามาขายให้กับสำนักข่าว แต่ยิ่งเขาทำงานนี้มากเท่าไหร่เขาก็ยิ่งขายวิญญาณตัวเองจนก้าวเลยจรรณยาบรรณของความเป็นมนุษย์เข้าไปทุกที




สำหรับตัวหนังเรื่อง Nightcrawler นั้นได้เข้าชิงรางวัลมากมายทั่วโลก รวมไปถึงติดเข้าชิงรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยมบนเวทีออสการ์ปีนี้ และได้เข้าชิงลูกโลกทองคำสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมประเภทดราม่าปีนี้อีกด้วย

ซึ่งก็ไม่รู้ว่าตัวหนังจะมีโอกาสได้เข้าฉายในโรงภาพยนตร์อีกหรือไม่ แต่ที่แน่ๆ ตัวหนังนั้นมีกำหนดออกแผ่นในช่วงเดือน เมษายน ที่จะถึงนี้ แต่สิ่งที่น่าเสียดายมากๆ ก็คือเรื่อง Nightcrawler นั้นเป็นภาพยนตร์ที่ เหมาะ กับการชมในโรงภาพยนตร์เท่านั้นเสียด้วย!




ตัวอย่างหนังใหม่เรื่อง Nightcrawler





วันพุธที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

มาดูรางวัล Oscars 2015 รางวัลนี้ ใครควรได้?(ต่อ)

มาดูรางวัล Oscars 2015 รางวัลนี้ ใครควรได้?(ต่อ)




กับรางวัลบทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม อีกหนึ่งสาขารางวัลของบทภาพยนตร์ มอบให้หนังที่สร้างสรรค์จากแนวความคิดที่สดใหม่ ซึ่งในปีนี้มีตัวเต็งที่โดดเด่นถึง 3 เรื่องด้วยกัน คงปฏิเสธไม่ได้กับแนวความคิดสุดโต่งของผู้กำกับ ที่ลงมือเขียนบทภาพยนตร์ Birdman เอง บทหนังที่ชั้นเชิง บวกกับการถ่ายทอดของทีมนักแสดงชั้นดี ทำให้ออกมาทรงคุณค่า ขณะที่บทภาพยนตร์ที่ใช้เวลายาวนานของ Boyhood ถือเป็นงานทดลองที่เต็มไปด้วยคุณภาพ และพิสูจน์ได้ว่าบทหนังดีๆ ไม่จำเป็นต้องมีขอบเขตเวลา

สำหรับบทภาพยนตร์ที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง The Grand Budapest Hotel ก็ถูกจับตามองเป็นพิเศษ โดยเฉพาะการเป็นขวัญใจเทศกาลหนัง ตระเวนเก็บรางวัลจากหลายๆ เวที ล่าสุดก็คว้า BAFTAs จากประเทศอังกฤษ ทำให้บทภาพยนตร์ตลกรวมดาราเรื่องนี้จึงโดดเด่นเป็นพิเศษ ขณะที่เรื่องราวการตีแผ่จิตใต้สำนึกของมนุษย์ จาก Nightcrwaler กับ ปมชีวิตบนสังเวียนการต่อสู้ จาก Foxcatcher แม้จะรั้งท้ายในกลุ่ม แต่ก็ไม่ควรมองข้ามเช่นกัน

ผู้ชนะที่าดว่าจะชนะ: The Grand Budapest Hotel โดย Wes Anderson | ส่วนตัวแปร: Birdman โดย Alejandro González Iñárritu | ส่วนม้ามืด: Boyhood โดย Richard Linklater




ลองย้ายมาวิเคราะห์ในสาขา รางวัลผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ในปีนี้ แม้ว่าภาพรวมจะมองเห็นตัวผู้ชนะอยู่ไกลๆ แต่อะไรก็เกิดขึ้นได้ ผู้กำกับที่ดูโดดเด่นที่สุดคงหนีไม่พ้น Richard Linklater จากการกำกับภาพยนตร์ยาวนานถึง 12 ปี จาก Boyhood กลายเป็นทฤษฎีใหม่ในการสร้าง เน้นและใส่ใจในรายละเอียดต่างๆ จนกลายเป็นหนังที่เปี่ยมล้นไปด้วยคุณภาพ

ในขณะที่สีสันและเอกลักษณ์ของ Birdman ทำให้ Alejandro González Iñárritu ขึ้นแท่นเป็นอีกหนึ่งตัวเต็งในสาขาผู้กำกับฯ กับแนวความคิดที่แหวกแนวและถ่ายทอดองค์ประกอบต่างๆ เข้าตาคณะกรรมการ เช่นเดียวกับ Wes Anderson จาก The Grand Budapest Hotel ผู้กำกับคนนี้ก็มีสไตล์เป็นตัวของตัวเอง มีลายเส้นชัดเจนจากผลงานภาพยนตร์ที่เขาได้กำกับ ส่วนอีก 2 ผู้กำกับที่ติดโผเข้าชิง อย่าง Bennett Miller จาก Foxcatcher และ Morten Tyldum จาก The Imitation Game น่าเสียดายที่พวกเขาถูกบรรดาตัวเต็งแย่งซีน

ผู้ที่คาดว่าจะชนะ: Richard Linklater จาก Booyhood | ส่วนตัวแปร: Alejandro González Iñárritu จาก Birdman | ส่วนม้ามืด: Wes Anderson จาก The Grand Budapest Hotel




และอีกหนึ่งสาขาที่น่าจับตามอง รางวัลภาพยนตร์แอนิเมชั่นยอดเยี่ยม แม้ว่าหลายจะมองแค่ว่าเป็นเพียง หนังการ์ตูน แต่ในยุคนี้ได้ให้ความสนใจกับเทคนิคงานสร้างแอนิเมชั่น เทียบเท่ากับภาพยนตร์ทั่วไป ปีนี้เราเห็นตัวเต็งมาลิบๆ แอนิเมชั่นจากค่ายดรีมเวิร์ค อย่างเรื่อง How to Train Your Dragon 2 การันตีด้วยรางวัลจากเวที Annie และ Golden Globe ขณะที่ Big Hero 6 แอนิเมชั่นจากค่ายดิสนีย์ ก็พอที่จะมีลุ้นอยู่ไม่น้อย

ในส่วนผู้เข้าชิงเรื่องอื่นๆ อย่างหนังเข้าใหม่แอนิเมชั่นนอกกระแส The Boxtrolls ได้เสียงเชียร์จากนักวิจารณ์หนังอยู่ไม่น้อย Song of the Sea แอนิเมชั่นจากฝรั่งเศส และ The Tale of the Princess Kaguya แอนิเมชั่นจากญี่ปุ่น อาจจะเป็นเพียงแค่ตัวประกอบในสาขานี้

ผู้ที่คาดว่าจะชนะ: How to Train Your Dragon 2 | ส่วนตัวแปร: Big Hero 6 | ส่วนม้ามืด: Song of the Sea




ซึ่งรางวัลใหญ่ที่สุดของเวทีออสการ์ ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ประจำปีนี้ 8 ภาพยนตร์ที่ผ่านเข้ารอบชิง ล้วนแต่เป็นการขับเคี้ยวที่น่าสนุก โดยเฉพาะการแข่งขันที่สูสีกันของ 2 ภาพยนตร์ขวัญใจนักวิจารณ์ประจำปีนี้ Birdman ที่ครองสถิติกวาดรางวัลมาทั่วสหรัฐอเมริกา ความลงตัวจากหลายๆ องค์ประกอบ รวมทั้งทีมงานและนักแสดงคุณภาพ ส่งเสริมให้ภาพยนตร์ตลกร้ายเรื่องนี้ คู่ควรกับการคว้าตุ๊กตาทองไปครอง...อยู่แค่เอื้อม

สำหรับเรื่อง Boyhood หนึ่งในภาพยนตร์ขวัญใจจากทุกเทศกาลหนังในปีที่ผ่านมา สร้างความแปลกใหม่ให้กับวงการภาพยนตร์ แม้ว่าโดยรวมจะเป็นเพียงหนังชีวิตทั่วไป แต่ด้วยเทคนิคการสร้างและการนำเสนอรูปแบบใหม่ ที่น่าตื่นตาในหมู่คนทำหนัง ที่ต้องใช้เวลาสร้างข้ามทศวรรษ กว่าจะเป็นภาพยนตร์ที่สมบูรณ์แบบ นี่คงเป็นอีกหนึ่งคุณสมบัติที่อยากจะมอบตุ๊กตาทองให้ไปครอง

และภาพยนตร์อัตชีวประวัติขวัญใจคนผิวสีอย่าง Selma เล่าเรื่องราวการต่อสู้ของ มาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์ เป็นอีกหนึ่งงานคุณภาพที่ติดโผเข้าชิงรางวัลใหญ่ แม้ว่าจะถูกมองข้ามไปในหลายๆ สาขาก็ตาม American Sniper ตีแผ่ฉากสงครามและผลกระทบจากเหตุก่อการร้าย ขึ้นแท่นเป็นหนังฮิตถล่มทลายเมื่อต้นปี 2015 ก็ควรจับตามองเป็นอย่างยิ่ง

ในส่วนของภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ ที่เข้าชิง The Theory of Everything แม้ว่าจะน่าประทับ แต่ก็ยังโดดเด่นสู้บรรดาตัวเต็งไม่ได้ เช่นเดียวกับ The Imitation Game, The Grand Budapest Hotel และ Wishlash ล้วนแต่เป็นขวัญใจนักวิจารณ์ แต่การได้เข้าชิงออสการ์ก็ถือว่าได้พิสูจน์คุณภาพของภาพยนตร์เรื่องนั้นๆ แล้ว



ผู้ที่คาดว่าจะชนะ: Boyhood | ส่วนตัวแปร: Birdman | ส่วนม้ามืด: American Sniper

ที่มา: http://movie.sanook.com/47649/

วันอังคารที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

รางวัล Oscars 2015 รางวัลนี้ ใครควรได้?

รางวัล Oscars 2015 รางวัลนี้ ใครควรได้?




เดินทางเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายของการประกาศผลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมประจำปี 87th Academy Awards หรือ Oscars 2015 รางวัลออสการ์ที่เตรียมมอบให้กับภาพยนตร์คุณภาพที่คู่ควรในสาขาต่างๆ ในคืนวันอาทิตย์ที่ 22 กุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ ในเช้าวันจันทร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ ตามเวลาในประเทศไทย

ขึ้นชื่อว่ารางวัลออสการ์ 2015 นั้นก็ยังคงอัดแน่นด้วยภาพยนตร์คุณภาพที่ตรงตามเกณฑ์และมาตรฐาน ทั้ง 24 สาขารางวัล สำหรับในปีนี้ภาพยนตร์ตลกร้าย รวมดาราชั้นนำ กลายเป็นในความโดดเด่น Birdman กับ The Grand Budapest Hotel เข้าชิงมากที่สุดถึง 9 รางวัล

โดยภาพยนตร์เนื้อหาเกี่ยวกับสงครามก็มาแรงอย่างเรื่อง The Imitation Game เข้าชิงถึง 8 รางวัล ส่วนภาพยนตร์ม้ามืดอย่างเรื่อง American Sniper มีชื่อเข้าเข้าชิงถึง 6 รางวัล  ในขณะที่ภาพยนตร์ที่สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับวงการในปีนี้อย่างเรื่อง Boyhood ก็ได้กลายเป็นตัวเต็ง เข้าชิง 6 รางวัลเช่นเดียวกัน

แต่ว่าผู้ชนะในแต่ละสาขามีได้เพียงแค่หนึ่งเดียว นี่คือ การคาดการณ์ ผลรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 87 ซึ่งประมวลจากข้อมูลทางสถิติรางวัลและรายได้ รวมทั้งคะแนนเสียงจากนักวิจารณ์หนังชั้นนำมาให้ได้ดูกัน




ซึ่งสำหรับบรรดารางวัลที่เกี่ยวกับ การแสดง ของออสการ์ปีนี้ เป็นที่น่าเสียดาย เพราะหลายสาขาล้วนแต่มี ตัวเต็ง หรือ ตัวเด่น ชนิดที่เตรียมตัวนอนมารับตุ๊กตาทอง หากไม่มีอะไรที่พลิกความคาดหมายและค้านสายตาคนดูหนังอย่างเราๆ

มาเริ่มต้นจาก รางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ที่คงปฏิเสธไม่ได้ว่า Julianne Moore มีผลงานการแสดงอันยอดเยี่ยมใน Still Alice กับบทบาทผู้หญิงกลายเป็นโรคอัลไซเมอร์ ได้รับเสียงชื่นชมอย่างเป็นเอกฉันท์จากเทศกาลหนังต่างๆ และนี่อาจจะสิ้นสุดการรอคอยเกือบ 20 ปี หลังจากที่เธอเคยเข้าชิงออสการ์มาถึง 4 ครั้ง แต่ยังไม่เคยคว้าได้เลยสักตัวเลย

ในส่วนสาวคนอื่นๆ ที่ร่วมเข้าชิงในรางวัลนักแสดงนำหญิงนี้ แม้จะทำผลงานเข้าตากรรมการ แต่ก็ยังไม่มีใครโดดเด่นได้เท่ากับตัวเต็ง บทบาทของ Felicity Jones ในเรื่อง The Theory of Everything นั้นน่าประทับใจ และ ไม่ควรมองข้าม

ส่วน Reese Witherspoon ในเรื่อง Wild ยังคงสร้างงานแสดงดีๆ ได้สมกับมาตรฐานของ Marion Cotillard จากเรื่อง Two Days, One Night ติดโผเข้ามาอย่างเซอร์ไพรส์ และก็ไม่น่าแปลกใจที่เธอขึ้นแท่นเป็นขวัญใจกรรมการ ส่วน Rosamund Pike จากเรื่อง Gone Girl เธอคนนี้ก็ต้องจับตามอง

ผู้ชนะที่คาดว่าจะได้รางวัล: Julianne Moore | ส่วนตัวแปร: Felicity Jones | ส่วนม้ามืด: Reese Witherspoon




และมาดู รางวัลนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม กันบ้าง สาขานี้ก็แทบจะไม่ต้องลุ้น เจ้าแม่ดาราทีวี Patricia Arquette น่าจะมาคว้ารางวัลออสการ์จากการเข้าชิงครั้งแรกไปได้อย่างสบาย จากการแสดงที่โดดเด่นในเรื่อง Boyhood

และคู่แข่งคนอื่นๆ ในสาขานี้แทบจะไม่น่ากลัวอย่าง Emma Stone จากเรื่อง Birdman กับ Keira Knightley จากหนังเข้าใหม่เรื่อง The Imitation Game ที่ได้รับเสียงชมจากนักวิจารณ์ Laura Dern จากเรื่อง Wild ก็ติดโผเข้ามาแบบงงๆ ส่วน Meryl Streep จากเรื่อง Into the Woods รายนี้เป็นขาประจำ เข้าชิงออสการ์แบบปีเว้นปี


ผู้ชนะที่คาดว่าจะได้รางวัล: Patricia Arquette | ส่วนตัวแปร: Keira Knightley | ส่วนม้ามืด: Laura Dern




และมาดูรางวัลนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม ก็เป็นอีกหนึ่งสาขาที่มี ตัวเต็ง ลอยเด่นมาแต่ไกลอย่าง JK Simmons ที่โชว์ฝีมือการแสดงเข้าขั้นเทพในเรื่อง Whiplash ที่เดินสายกวาดรางวัลมาแทบจะทุกเวที และนี่คงเป็นการคว้าตุ๊กตาทองตัวแรกในชีวิตการแสดงของเขา ที่น่าจะครอบครองมาได้โดยไร้ข้อกังขา

ในขณะที่ผู้เข้าชิงอีก 4 คน ก็ไม่น่าหวั่นเกรงสักเท่าไหร่อย่าง Edward Norton จากเรื่อง Birdman กับ Ethan Hawke จากเรื่อง Boyhood โดยที่ 2 คนนี้บรรดานักวิจารณ์หนังคอยส่งเสียงเชียร์อยู่ไม่น้อย ส่วน Mark Ruffalo จากหนังเรื่อง Foxcatcher และ Robert Duvall จากเรื่อง The Judge และน่าเสียดายที่พวกเขาแทบจะถูกลืม

ผู้ชนะที่คาดว่าจะได้รางวัล: J.K. Simmons | ส่วนตัวแปร: Edward Norton | ส่วนม้ามืด: Ethan Hawke



มาเพิ่มระดับความน่าตื่นเต้นกันน่อย สำหรับรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ประจำปีนี้คงเป็นสาขาการแสดงที่ได้ลุ้นกัน การชิงดีชิงเด่นระหว่าง หนุ่มดาวรุ่ง กับ ดารารุ่นใหญ่อย่าง Michael Keaton ที่โชว์ปล่อยของโดนใจนักวิจารณ์ทั้งประเทศจากการแสดงใน Birdman ส่วน Eddie Redmayne จากเรื่อง The Theory of Everything ที่รับบทอัจฉริยะโลกจารึกอย่าง Stephen Hawking แบบตามสูตรออสการ์เป๊ะ แม้ว่าคะแนนของทั้งคู่จะสูสีกัน แต่ผู้ชนะมีเพียงแค่หนึ่งเดียว

และผู้เข้าชิงรางวัลนำชายคนอื่นๆ ก็น่าประทับใจ อย่าง Steve Carell ที่พลิกบทบาทแปลงโฉมโชว์ฝีมืออย่างเข้มข้นในเรื่อง Foxcatcher ก็ไม่ควรมองข้าม เช่นเดียวกับ Benedict Cumberbatch จากเรื่อง The Imitation Game ก็พอที่จะมีลุ้น ส่วนขวัญใจอเมริกาอย่าง Bradley Cooper จากหนังฮิตเรื่อง American Sniper ก็น่าจะกลายเป็นม้ามืดอยู่ในสาขารางวัลนี้

ผู้ชนะที่คาดว่าจะได้รางวัล: Eddie Redmayne | ส่วนตัวแปร: Michael Keaton | ส่วนม้ามืด: Bradley Cooper

และตามมาด้วยรางวัลเกี่ยวกับ บทภาพยนตร์ ปีนี้พบว่ามีการแข่งขันค่อนข้างสูสีในสาขารางวัลนี้ อีกทั้งยังมีบทภาพยนตร์หลายเรื่องที่คาดว่าจะติดโผเข้าชิง แต่กลับไม่มีชื่ออย่างน่าประหลาดใจ เช่น เรื่อง  Gone Girl, เรื่อง Wild หรือ เรื่อง Still Alice เป็นต้น




สำหรับรางวัลบทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม แม้จะมีชื่อหนังหลายๆ หลุดโผไป แสดงให้เห็นว่าสาขารางวัลนี้ค่อนข้าง สายแข็ง โดยเฉพาะงานดัดแปลงจากหนังสืออัตชีวประวัติกลางสมรภูมิรบอย่างเรื่อง American Sniper ได้ภาษีดีขึ้นมาทันที ที่กลายเป็นฮิตถล่มทลายตั้งแต่ปีใหม่ ส่วนหนังอินดี้อย่างเรื่อง Wishlash ดัดแปลงมาจากหนังสั้นชื่อเดียวกัน ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเต็งที่สร้างสรรค์ได้อย่างมีชั้นเชิง

ในส่วนผู้เข้าชิงเรื่องอื่นๆ งานดัดแปลงจากหนังสือของเรื่อง The Imitation Game ก็ไม่ควรมองข้าง เช่นเดียวกับเรื่อง The Theory of Everything ประวัติของอัจฉริยะเรื่อง Stephen Hawking  ที่ตีความออกมาได้อย่างประทับใจ ขณะที่เรื่อง Inherent Vice กลายเป็นตัวเลือกที่ติดโผเข้ามาแบบเซอร์ไพร์ส

สำหรับผู้ชนะที่คาดว่าจะได้รางวัล: Wishlash โดย Damien Chazelle | ส่วนตัวแปร: The Imitation Game โดย Graham Moore | ส่วนม้ามืด: American Sniper โดย Jason Hall


รางวัลยังไม่หมดแค่นี้นะ เดี๋ยวมาต่อกันพรุ่งนี้นะครับ หรือใครที่ขี้เกียจรอ เข้าไปอ่านได้เลยครับที่นี่ http://movie.sanook.com/47649/

วันเสาร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

บทวิจารณ์หนังเรื่อง The Imitation Game,Fifty Shades of Grey

บทวิจารณ์หนังเรื่อง The Imitation Game




ซึ่งในตัวหนังและชีวิตจริงของ อลัน ทัวริ่ง เขาอาจจะต้องคอยปกปิดความเป็น เกย์ ของตัวเองเอาไว้จวบจนวันตายของเขา มิหนำซ้ำในช่วงเวลาดังกล่าวแล้วการเป็นบุคคลที่รักในเพศเดียวกันนั้นยังจัดเป็นเรื่องผิดกฎหมายและมีบทลงโทษของการเป็นเช่นนั้นอีกต่างหาก

โดยที่ อลัน ทัวริ่ง นั้นอาจจะเป็นแค่นักคณิตศาสตร์คนหนึ่ง แต่เมื่อเขาฉายแววเมื่อเขาได้เข้าร่วมกับคณะถอดรหัสลับอีนิกม่าอันเป็นรหัสที่เยอรมันใช้ส่งข่าวสารเรื่องการเคลื่อนทัพในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 รหัสลับที่ว่ากันว่าถอดยากจนแทบไม่มีโอกาสจะถอดได้ แต่ว่าท้ายที่สุด อลัน ทัวริ่ง และทีมของเขาก็สามารถช่วยเหลือกองทัพของเหล่าสัมพันธมิตรให้กุมชัยชนะในสงครามและย่นระยะเวลาจุดสิ้นสุดของสงครามให้จบลงไวกว่าเดิมร่วม 2 ปี

และการที่ได้สวมบทเป็นอลัน ทัวริ่งของเบเนดิกซ์ คัมเบอร์แบชนั้นเรียกได้ว่าเขาสามารถทำให้ตัวละครที่เขาสวมบทบาทเต็มไปด้วยมิติมากมายไม่ว่าจะเป็นในฐานะของอัจฉริยะที่มีปัญหาเรื่องการเข้ากับผู้คนและการที่ เกย์หนุ่มที่ต้องแอบซ่อนความรู้สึกของตัวเอง รวมไปถึงปมในจิตใจยามเด็กและการเลือกจะแต่งงานบังหน้าเพื่อดึง โจน คลาร์ค หรือ เคียร่า ไนท์ลีย์ เอาไว้ในทีมถอดรหัสไว้ให้ได้นานที่สุด

สำหรับความน่าสนใจของตัวละครของ โจน คลาร์ค ก็เรียกได้ว่าโดดเด่นไม่แพ้กับบทของอลัน เนื่องจากตัวละครนี้เป็นเพศหญิงแค่เพียงคนเดียวเท่านั้น มิหนำซ้ำในยุคสมัยดังกล่าวผู้หญิงถูกจัดเป็นช้างเท้าหลังที่มีหน้าที่อยู่ในหมวดนักทะเบียนเลขานุการหรือไม่ก็ในฐานะแม่บ้านแม่เรือน แต่ในฐานะของนักคิดนั้น โอกาสความเป็นได้ต่ำเตี้ยพอๆกับบุคคลรักร่วมเพศ แถมหน้าที่ที่เธอโดนตราหน้าก็มีแค่เพียงการแต่งงานเป็นภรรยาของชายอื่นเช่นเดียวกับผู้หญิงทั่วไปในสังคม

โดยความสำเร็จของ อลัน ทัวริ่ง นั้น ในช่วงเวลาดังกล่าวแทบจะไม่มีใครล่วงรู้เลย เนื่องจากมันเป็นปฏิบัติการลับทางทหาร และเวลาผ่านไปกว่า 60 ปีจนถึงทุกวันนี้สาเหตุการจากไปของอลัน ทัวริ่งก็ยังคงเป็นปริศนาที่ยังไม่ได้รับคำตอบอันแน่ชัด แนวคิดแรกก็คือเขาอาจจะฆ่าตัวตายจากการสูดสารไซยาไนด์เข้าไปเนื่องจากหดหู่กับการต้องรักษาอาการรักร่วมเพศด้วยการฉีดฮอร์โมนเอสโตรเจนเข้าร่างกาย แทนการจองจำในคุก แต่ในอีกแนวคิดหนึ่งคือเขาเสียชีวิตเนื่องจากการสูดดมไซยาไนด์เข้าไปโดยบังเอิญมากกว่า

แต่ว่าเรื่องที่น่าเศร้าที่ในช่วงเวลาดังกล่าวความสำเร็จที่อลัน สามารถช่วยเหลือเหล่าทหารนับหมื่นนับแสนนายให้รอดพ้นจากความโหดร้ายของสงคราม แต่มีเพียงไม่กี่คนที่ได้รับรู้ถึงสิ่งที่เขาได้ทำลงไป ความสำเร็จนั้นไม่ได้รับการป่าวประกาศหรือยกย่อง ซ้ำร้ายสิ่งที่เขาเป็นตามธรรมชาติของเขายังถูกสังคมมองว่าเป็นสิ่งผิดกฎหมายจนมันย้อนกลับมาแว้งกัดชีวิตของเขาอีก

และอย่างไรก็ตามวันนี้ก็มีคนรู้จักเกย์หนุ่มที่เป็นคนไขรหัสอีนิกมานามว่า อลัน ทัวริ่ง แล้ว

ให้ 4.5 คะแนนจาก 5 คะแนน

@พริตตี้ปลาสลิด

อ่าน 4 เรื่องสุดสยิวของเรื่อง Fifty Shades of Grey





เรื่องที่ 1.นั้นมาจากหนังสือเบสท์เซลล์เลอร์สู่ภาพบนจอเงิน

สำหรับเรื่อง Fifty Shades of Grey นั้นเป็นผลงานวรรณกรรมของ อี แอล เจมส์ หนังสือไตรภาคที่มียอดขายถล่มทลายกว่า 100 ล้านเล่มใน 52 ภาษาทั่วโลก ที่สำคัญมันทำให้บรรดานักอ่านล้วนสนใจว่านิยายเล่มนี้มีความพิเศษตรงไหนและอะไรคือจุดขายของมัน และแน่นอนที่มันฉาวขนาดนี้เพราะมันเป็นนิยายที่พูดถึงเรื่องเซ็กส์แบบเจ็บๆ

เรื่องที่ 2.ความอยากรู้อยากเห็น

ในภาพยนตร์ที่สร้างจากนิยายเรื่องนี้ ที่ตกเป็นประเด็นการคาดเดาในวงกว้างและความสงสัยใคร่รู้ไร้ขอบเขต โดยที่เทรลเลอร์ของหนังเป็นหนึ่งในตัวอย่างที่มีผู้คลิ๊กชมมากที่สุดทาง YouTube เมื่อปีที่แล้ว ยิ่งไปกว่านี้ในประเทศไทยได้ข้อสรุปออกมาแล้วว่าตัวหนังจะเข้าฉายแบบเต็มๆไม่มีการตัดทอนใดๆออกแลกกับเรตที่ได้รับคือ ฉ 20+ นั่นคือต้องมีการตรวจบัตรประชาชนก่อนเข้าโรงหนัง

เรื่องที่ 3.ตัวของคริสเตียน เกรย์ หนุ่มนักธุรกิจรสนิยมเฉพาะทาง

ทางด้านของ เจมี ดอร์แนน ได้เสนอตัวรับบท คริสเตียน เกรย์ ที่เป็นนักแสดงชาวไอริช ผู้เป็นที่รู้จักจากการแสดงที่ได้รับรางวัลบาฟตา อวอร์ดของเขาในซีรีส์เรื่อง The Fall และซีรีส์ Once Upon a Time ได้ออดิชั่นบทบาทที่ใกล้เคียง

และเนื่องจากบทโปรแกรมหนังภาพยนตร์จริงๆนั้นถูกเก็บไว้เป็นความลับจนกระทั่งเหลือผู้ออดิชั่นน้อยลง เขาจึงได้ทดลองเล่นเป็นคริสเตียนจริงๆ ภายหลัง

โดยหลังจากการที่ได้บันทึกภาพที่มีแววแล้ว นักแสดงหนุ่มก็ได้คุยทางสไคป์กับเทย์เลอร์-จอห์นสัน ผู้กำกับและทีมผู้อำนวยการสร้างได้นั่งคุยกับดอร์แนนเป็นเวลานานตามคำขอของเขา เราคิดว่ามันเป็นเรื่องสำคัญที่ใครก็ตามที่จะรับบทนี้จะต้องทุ่มเทตัวเองแบบสุดๆ จริงๆ บรูเน็ตติกล่าว และถ้าจะมีความไม่มั่นใจ เกิดขึ้น มันก็จะกลายเป็นปัญหาใหญ่ในการถ่ายทำ และก็อาจจะเป็นปัญหาในหนังใหม่เรื่องอื่นๆ ด้วย

เรื่องที่ 4.เรื่องของ อนาสตาเซีย สตีล ทาสรักสาว

สำหรับผู้มารับบทบาทนี้ก็คือ ดาโกต้า จอห์นสัน เธอสนใจบทอนาสตาเซียก่อนโปรเจ็คนี้จะเป็นรูปเป็นร่างด้วยซ้ำไป เธอแสดงความคิดหลังจากการอ่านนิยายว่า ฉันรู้สึกว่าโลกเราเปลี่ยนแปลงไปเร็วมาก และหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นภายในระยะเวลาสั้นๆ จนเซ็กส์ในหนังเข้าใหม่สือเรื่องนี้ ที่ถูกอธิบายอย่างโจ่งแจ้งและชัดเจน เป็นอะไรที่อิสระเสรีสำหรับคนทั่วไปค่ะ

และผู้กำกับของจอห์นสัน ได้อธิบายถึงเหตุผลที่นางเอกของเธอเหมาะกับบทนี้ว่า ฉันรู้ตั้งแต่แรกที่เราได้พบดาโกต้าแล้วว่าเราพบแอนัสเตเซียของเราแล้ว เธอแสดงถึงสมดุลที่เพอร์เฟ็กต์ระหว่างความเปราะบาง ความแสบซ่า ความงดงามและความกล้าหาญ ดาโกต้าเข้ามาทดสอบบทตั้งแต่ตอนแรกๆ มันเป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่ฉันรู้ว่าบทนี้เป็นของเธอ ดาโกต้า เธอมีไหวพริบ เสน่ห์และความเฉลียฉลาดของแอนาและเธอก็เนรมิตชีวิตให้บทนี้ได้อย่างที่ฉันจินตนาการไม่ออกเลยว่าจะมีใครทำได้อีก





วันศุกร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

Marvel เตรียมดึง spierman เข้าร่วมกับ Avengers,HUNGER PART 2

ล่าสุด!! สาวกสไปเดอร์แมน เตรียมเฮ! 

หลังมาร์เวล ได้สิทธิ์ดึงตัวละครกลับมาแจมในสงครามจักรวาล




ก็อาจจะเรียกได้ว่าเป็นข่าวที่ดีที่สุดในรอบหลายๆปีกันเลยก็ว่าได้ เพราะตอนนี้ทางสตูดิโอมาร์เวลและโซนี่ พิกเจอร์ส นั้นสามารถหาข้อตกลงร่วมกัน รวมไปถึงส่วนแบ่งเรื่องเงินเป็นที่ลงตัว แล้วว่าตอนนี้ฮีโร่อย่างสไปเดอร์แมนนั้นจะได้เข้ามาร่วมทีมกับ The Avengers ได้อย่างแน่นอน และที่สำคัญคือการได้ร่วมแจมกับทีม อเวนเจอร์ นี้จะมีการเฟ้นหาไอ้แมงมุมตัวใหม่ด้วย




โดยที่ทาง แอนดรูวส์ การ์ฟิลด์ ไอ้แมงมุมจากเรื่อง The Amazing Spiderman ก็ได้ออกมาตอบเช่นกันว่าเขาจะไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของหนังในการรวมทีม The Avengers แต่ว่าที่แน่ๆคือ ทางมาร์เวลเองก็มีแผนการที่จะให้ไอ้แมงมุมได้ไปปรากฏตัวอยู่ใน Captain America: Civil War แบบพอหอมปากหอมคอด้วยเช่นกัน




เพียงแต่ว่าการประกาศข่าวที่น่ายินดีนี้ก็มีข่าวร้ายเช่นกัน เมื่อโปรเจ็คหนังที่รวมดาวร้ายของตัวละครคู่อริของสไปเดอร์แมนอย่าง Sinister Six ที่มีกำหนดการเข้าฉายในปี 2016 ก็ถูกพับเก็บเข้ากรุไปและมีทีท่าว่าอาจจะไม่ได้สร้างในเร็วๆ นี้อย่างแน่นอน

และอย่างไรก็ตามข้อตกลงใหม่ที่เกิดขึ้นระหว่าง เควิน ไฟกี ของมาร์เวล สตูดิโอ และ เอมี พาสคาล ซึ่งลาออกจากตำแหน่งประธานร่วมของโซนี พิกเจอร์สนั้น ที่ทั้งสองสตูดิโอจะร่วมมือกันสร้างสรรค์เรื่องราวใหม่ให้กับซูเปอร์ฮีโร่อย่างสไปเดอร์แมน

ซึ่งความพิเศษ ที่มียิ่งกว่านั้นก็คือ การที่อาจจะหาโอกาสพิเศษให้ตัวละครจากจักรวาลมาร์เวลได้มีโอกาสมาโผล่อยู่ในเรื่องราวของหนังเรื่องสไปเดอร์แมนด้วย




และที่แน่นอนว่าโปรแกรมหนังในเรื่อง The Avengers Age of Ultron นั้นคงจะยังไม่มีสไปเดอร์แมนโผล่หน้ามา เพราะว่าได้ปิดกล้องไปแล้วแถมหนังก็จ่อคิวเข้าฉายแล้วเรียบร้อย แต่ว่าในตอน Avengers: Infinity War – Part 1 เขานั้นก็น่าจะได้ออกมาร่วมทีมกับบรรดาฮีโร่คนอื่นๆอย่างแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้นการได้ร่วมทีมของฮีโร่นักไต่เข้ากับจักรวาลมาร์เวลครั้งนี้ทำให้สตูดิโอต้องเลื่อนวันฉายของซูเปอร์ฮีโร่คนอื่นๆ ตามไปด้วยดังต่อไปนี้


  1. เรื่อง Thor: Ragnarok นั้นเลื่อนวันฉายใหม่ไปเป็น 3 พฤศจิกายน 2017
  2. เรื่อง Black Panther นั้นเลื่อนวันฉายไปเป็น 6 กรกฎาคม 2018
  3. เรื่อง Captain Marvel นั้นเลื่อนตามไปเป็น 2 พฤศจิกายน 2018
  4. เรื่อง Inhumans นั้นเลื่อนวันฉายไปเป็น 12 กรกฎาคม 2019



ภาคปิดฉาก HUNGER PART 2 อย่างยิ่งใหญ่

บนจอ IMAX และหนังภาคแยก




ซึ่งหลังจากที่โดนแฟนหนังทั่วโลกโอดโอยว่าทำไมหนังภาคแรกของ The Hunger Games: Mockingjay PART 1 ถึงแม้ว่าไม่ได้เข้าฉายบนจอ IMAX แต่สำหรับภาคที่สองที่มีคิวเข้าฉายในช่วงกลางปีนี้ได้ข้อสรุปจากสตูดิโออย่างไลออนเกสต์แล้ว่าในภาคนี้จะได้ฉายบนจอใหญ่ยักษ์อย่างแน่นอน

แถมด้วยตัวผู้กำกับอย่าง ฟรานซิส ลอวร์เรนซ์ได้คอนเฟิร์มแล้วเวยว่าหนังภาคนี้จะกลายเป็นแบบ IMAX 3D ด้วย ซึ่งเรียกได้ว่าจะเป็นการปิดฉากสงครามแห่งพาเน็มอย่างยิ่งใหญ่กันเลยทีเดียว

ซึ่งถึงแม้ว่าตอนหนัง PART1 จะไม่ได้ดูเป็นเวอร์ชั่น 3D แต่สำหรับประเทศจีนกลับได้สิทธิพิเศษได้ดูเป็นเวอร์ชั่นสามมิติ ซึ่งตัวผู้กำกับฟรานซิส ลอว์เรนซ์พอใจกับงานภาพที่ถูกดัดแปลงเป็นสามมิติด้วย

แต่ว่าอย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าหนังภาคที่กำลังจะเข้าฉายนี้อาจจะไม่ใช่ภาคสุดท้ายของแฟรนชายส์นี้เมื่อโจน เฟลเทเมอร์ ที่เป็นซีอีโอของ ค่ายไลออนเกสต์ ได้เปิดเผยว่า ในอนาคตอาจจะมีการคลอดโปรเจ็คหนังภาคแยกออกมาอีก ซึ่งตอนนี้เรากำลังพัฒนาและคิดเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของภาคก่อนหน้าหรือภาคต่อหลังจากหนัง Mockingjay PART 2 จบลง โจน เฟลเทเมอร์กล่าวไว่

และจากสถานการณ์ และ โอกาสที่มีความเป็นไปได้มากกว่าคือการพัฒนาหนังภาคพรีเควนซ์หรือภาคก่อนหน้าออกมา ซึ่งแน่นอนว่าตัวหนังอาจจะมีการพูดถึง เกมล่าชีวิต ในครั้งก่อนหน้าหนังภาคแรกซึ่งอาจจะมีความเป็นไปได้ที่ว่าหนังอาจจะโฟกัสไปที่ตัวละครฟินิค(แซม คาฟลิน) เคยเป็นผู้ชนะในเกมครั้งก่อนหน้า

ซึ่งโอกาสที่จะพัฒนาหนังภาคต่อออกมานั้นก็น่ากังขาอยู่ว่าเรื่องราวในพาเน็มนั้นจะมีอะไรให้พูดถึงอีกเนื่องจากเรื่องการปฏิวัติของพาเน็มมันจบลงอย่างสมบูรณ์แน่นอนแล้วในภาคที่ 3 นี้ เนื่องจากแฟรนชายส์ Hunger Games นั้นแตกต่างจากแฟรนชายส์อย่าง Harry Potter ยังพาผู้ชมไปเปิดโลกเวทมนตร์ในมิติต่างๆได้อีกเยอะแยะมากมาย

เอาน่ะ!! อย่างไรก็ตามเหตุผลของความพยายามจะพัฒนาภาคอื่นๆของเรื่อง Hunger Games ออกมาอีกก็เพราะหนังเรื่องนี้เป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของสตูดิโอไลออนเกสต์ซึ่งทำกำไรให้อย่างมหาศาล และถึงแม้ว่า แฟรนชายส์ของ Divergent จะทำกำไรให้สตูดิโอเช่นกันแต่มันก็ยังห่างไกลคำว่ามหาศาลแบบ Hunger Games





วันศุกร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

มาดูไดโนเสาร์ตัวใหม่ในหนังใหม่เรื่อง JURASSIC WORLD

มาดูไดโนเสาร์ตัวใหม่ใน JURASSIC WORLD





ซึ่งหนังเรื่อง JURASSIC WORLD นั้นน่าจะสามารถจัดได้ว่าเป็นหนึ่งในหนังที่คนทั่วโลกรอคอย เพราะตั้งแต่หนังภาคที่สามออกฉายไปเมื่อ 14 ปีก่อนพร้อมกับคำวิจารณ์หนังที่สับตัวหนังเสียเละเทะแถมตัวหนังก็ได้เข้าชิงรางวัลราซซี่เน่าประจำปี 2012 ในสาขาแต่งหน้ายอดแย่อีกต่างหาก

แต่ว่าอย่าไปพูดถึงหนังภาคที่ไม่น่าจดจำเลย เพราะถ้าย้อนกลับไปในปี 1993 JURASSIC PARK คือปรากฏการณ์บนจอภาพยนตร์ที่ทำให้คนทั้งโลกตื่นตาตื่นใจไปกับไดโนเสาร์ที่สมจริงสมจังอันเป็นอีกผลงานมาสเตอร์พีสของผู้กำกับสตีเวน สปีลเบิร์ก พ่อมดแห่งฮอลลีวูด

โดยหลังจากที่ค่อยๆ ปล่อยภาพและตัวอย่างของหนังใหม่เรื่อง JURASSIC WORLD ออกมาทีละเล็กทีละน้อย คราวนี้สตูดิโออย่างยูนิเวอร์แซลก็เลือกจะแย้มไดโนเสาร์ตัวร้ายที่คาดว่าน่าจะเป็นตัวสร้างความวุ่นวายและความตื่นเต้นให้กับหนังภาคนี้ก็คือไดโนเสาร์พันธุ์ใหม่ที่ชื่อ อินโดไมนัส เร็กซ์




สำหรับเหตุการณ์ในหนังภาคนี้เกิดขึ้นจากความอยากรู้อยากเห็นของนักวิทยาศาสตร์ที่จัดการนำสายพันธุ์ของไดโนเสาร์เอามาผสมข้ามสายพันธุ์จนกลายเป็นไดโนเสาร์ที่ฉลาด ดุร้าย และว่องไว ซึ่งเป็นที่มาของชื่ออินโดไมนัส เร็กซ์ หรือแปลได้ว่า ราชาผู้ดุร้าย นั่นเอง

ซึ่งทางทีมงานของผู้สร้างหนังภาคนี้เลือกจะเปิดเผยรายละเอียดว่าพวกเขาตั้งใจจะให้เจ้าไดโนเสาร์ตัวนี้กลายเป็นตัวที่ดุร้ายที่สุดในแฟรนชายส์หนังชุดนี้เลยทีเดียว โดยแล็บที่ได้ให้กำเนิดเจ้าไดโนเสาร์พันธุ์นี้ก็คือแฮมมอนด์ ครีเอชั่น แล็บ

และหากมองแบบผิวเผินแล้วเจ้าไดโนเสาร์ตัวนี้ดูเหมือนกับว่าส่วนหัวของมันมีความคล้ายคลึงกับไดโนเสาร์พันธุ์ทีเรกซ์แต่มันมีองค์ประกอบบนส่วนหัวที่แตกต่างกัน แถมมันมีผิวหนังแข็งเป็นเกล็ดคล้ายกับกระดูกที่แข็งเป็นพิเศษซึ่งมาจากเธอโรพอดชื่อ เอบิไลโอซอร์ มันผ่านการผสมเทียมโดยพันธุวิศวพันธุกรรมจากได้โนเสาร์สายพันธุ์

  1. คาร์โนทอรัส
  2. มาจันกาซอรัส
  3. รูกอพ 
  4. จิกแกนโนโตซอรัส


สำหรับอานุภาพเสียงคำรามของอินโดไมนัสดังกังวาลราว 140 - 160 เดซิเบล เท่ากับเสียงบินขึ้นและลงจอดของเครื่องบินโบอิ้ง 747 และสามารถวิ่งได้ด้วยอันตราเร็ว 30 ไมล์ต่อชั่วโมงเลยทีเดียว


ตัวอย่างหนังใหม่เรื่อง JURASSIC WORLD