วันศุกร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2557

วิจารณ์หนังใหม่เรื่อง Sin City: A Dame to Kill For และการ์ตูนเรื่อง Seraph of the End ได้ทำเป็นอนิเมชั่นแล้ว


มาวิจารณ์หนังเรื่อง Sin City: A Dame to Kill For




ก็ไม่แน่ใจว่าทำไมหนังอย่างเรื่อง Sin City ถึงมีการงอกภาคต่อออกมาอีก 1 ภาค ถึงแม้ว่ามันจะมีแฟนคลับเดนตายที่ตามอ่านผลงานการ์ตูนของแฟรงค์ มิลเลอร์ก็ตามที แต่มันก็ยังไม่น่าจะเหนียวแน่นพอที่จะคลอดงานภาคต่อออกมา และด้วยเหตุผลที่เช็ครอบหนังทิ้งช่วงในการเข้าฉายเอาไว้ยาวนานร่วมเกือบ 10 ปีจึงเป็นเหตุผลอีกประการหนึ่งที่ทำให้กระแสในภาพรวมของตัวหนังดูซบเซาไปถนัดตา รายได้เปิดตัวของโปรแกรมหนังในอเมริกาจึงอยู่ในระดับที่น่าผิดหวังแบบสุดๆเพียง 6.3 ล้านเหรียญเท่านั้น ในขณะที่ในต่างประเทศก็ทำรายได้ย่ำแย่ไม่แพ้กัน เต้าของเอวา กรีนไม่ได้ช่วยอะไรสักเท่าไหร่



โดยการเชื่อมโยงร้อยรัดเอาทุกอย่างมาไว้ด้วยกันเหมือนเป็นหนังสั้นจำนวน 4 เรื่องที่มีตัวละครจากอีกเรื่องหนึ่งเข้ามาโยงใยกับอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งมีฉากหลังเป็นเหมือน Sin City นั้น วิธีการนำเสนอดังกล่าวยังถูกนำกลับมาใช้ในตัวหนังเช่นเคย เหตุการณ์ในภาคที่ 2 เปิดเรื่องมาด้วยเหตุการณ์ของมาร์ฟ แสดงโดย มิกกี้ โร้ค ชายร่างยักษ์ที่ฟื้นขึ้นบนถนนและจดจำอะไรไม่ได้เลย ก่อนจะพบว่าเขาลงมือจัดการเด็กวัยรุ่นอันธพาลข้างถนนอย่างปางตาย เหตุการณ์ในตอนนี้ค่อนข้างเหมือนการแนะนำตัวละครที่แทบจะไม่ได้นำไปสู่ประเด็นอะไรสักเท่าไหร่

ซึ่งเนื้อเรื่องในตอนถัดมาบอกเล่าเรื่องราวของจอห์นนี่ แสดงโดย โจเซฟ กอร์ดอน เลวิซ นักพนันมือทองที่ดันไปแหย่หนวดเสืออย่างวุฒิสมาชิกโรร์ค แสดงโดย พาวเวอร์ บูทส์ จนทำให้เขาถูกตามล่าและคิดบัญชีสุดโหด อันที่จริงตัวละครของจอห์นนี่นั้นแทบจะกล่าวได้ว่าเขาเป็นตัวละครที่จัดได้ว่าใสซื่อและเป็นคนที่กล้าท้าทายอำนาจมืดโดยไม่กลัวผลกระทบที่ตามมา






ซึ่งส่วนตอนที่น่าจะเป็นไฮไลท์เด็ดที่สุดของเรื่องราวในภาค A Dame to Kill For ดัดแปลงมาจากการ์ตูนเล่มที่ 2 ของ Sin City ซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากหนังใหม่เข้าโรงฟิล์มนัวร์คลาสสิคเรื่อง Double indemnity ได้เล่าเรื่องราวของเอวา ลอร์ด รับบทโดยเอวา กรีน สาวสวยรอบจัดที่ใช้เสน่ห์ของตัวเองเป็นเครื่องมือในการหลอกล่อผู้ชาย เธอเป็นสาวอดีตคนรักของดไวท์ แม็คคาร์ธี แสดงโดย จอช โบรลิน เธอกลับมาหาเขาอีกครั้งเพื่อขอร้องให้เขาช่วยเธอจากสามีมหาเศรษฐีเดเมียน ลอร์ด แสดงโดย มาร์ตัน โชคัส โดยมีบอดี้การ์ดสุดเหี้ยมอย่างแมนิท แสดงโดย แดนนิส เฮย์สเบิร์ต ซึ่งความเป็นจริงแล้วเอวานั้นอาจจะไม่ได้ดูน่าสงสารอย่างที่คิด 


โดยที่ความจริงแล้วเธอเป็นนังอสรพิษร้ายที่หมายจะบงการชีวิตผู้ชายทุกคนที่เข้ามาในชีวิตเธอด้วยการใช้ประโยชน์จากเรือนร่างและเสน่ห์ของตัวเอง สิ่งที่โดดเด่นที่สุดในตอนนี้ก็คือการบริหารเสน่ห์ของเอวา กรีนที่ครบเครื่องเรื่องความสวยสุดเซ็กซี่ และฉากที่ได้เห็นในเรื่องก็เรียกได้ว่าโจ๋งครึ่มและเปิดเผยสัดส่วนของเธออย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง ตัวละครของเอวาเป็นตัวละครที่เอื้อต่อการให้แสดงออกด้วยจริตจก้านอย่างฉูดฉาด เรียกได้ว่าในภาคนี้เธอคือ สีสัน ของเรื่องอย่างแท้จริง



และถ้ายังพอจะจำกันได้คือเสน่ห์ของเอวา กรีนนั้นเผ็ดร้อนมากจนถึงขั้นที่ว่าโปสเตอร์ตัวละครของเธอในอเมริกานั้นถูกแบน เนื่องจากเสื้อผ้าของตัวละครบางเกินไปจนเป็นข่าวครึกโครมไปทั่วโลก นอกเหนือไปจากนี้สาวๆที่เป็นลูกสมุนของโรซาริโอ ดอว์สันในบท เกล หัวหน้าแก๊งค์หญิงแห่งเมืองคนบาปก็ยังคงเสน่ห์สุดร้อนแรงเอาไว้จนผู้ชมไม่อาจจะละสายได้เลย อาทิ มิโฮ แสดงโดย เจมี ชุง  / โกลดี้และเวนดี้ แสดงโดย เจมี คิง

ในส่วนตอนสุดท้ายของเรื่องตกเป็นของแนนซี แสดงโดย เจสสิก้า อัลบ้า นักเต้นที่กลายเป็นหนี้ชีวิตขอฮาร์ติแกน แสดงโดย บรูซ วิลลิส เมื่อเธอจมอยู่กับความจริงที่ว่าฮาร์ติแกนนั้นยอมสละชีวิตเพื่อช่วยเธอจากเงื้อมือของวุฒิสมาชิกโรร์ค ยิ่งนานวันเธอยิ่งจมปลักอยู่กับความคิดที่จะล้างแค้นให้กับฮาร์ติแกน ถึงขนาดเธอยอมกรีดใบหน้าสวยๆของตัวเองเพื่อเปิดทางให้มาร์ฟช่วยเธอไปลุยกับโรร์คยังที่พำนัก สีสันของตอนนี้คือการที่เราได้เห็นแนนซีจมจ่อมอยู่กับความคิดของตัวเอง ซึ่งเจสสิก้า อัลบ้าถ่ายทอดความบอบช้ำทางจิตใจออกมาได้ไม่เลว ท่าเต้นของเธอบนเวทีก็ถือได้ว่าเซ็กซี่มากๆ


ซึ่งอย่างไรก็ตามภาพรวมของเรื่อง  Sin City A Dame to Kill For นั้นยังย่ำตามรอยความสำเร็จของหนังภาคแรก ยิ่งไปกว่านั้นในภาคนี้ออกจะน่าเบื่อกว่าและตัวละครสีสันไม่ค่อยฉูดฉาดเท่าภาคที่แล้ว ตัวละครแต่ละตัวค่อนข้าง พูดเยอะ หรือ พล่าม กับตัวเองในระดับค่อนข้างน่ารำคาญจนเกินไป และก็อย่างที่ได้บอกว่าไปว่าถ้าเหตุการณ์ในรอบหนังภาคนี้ขาด เอวา กรีน มันคงจะ จืดชืด กว่าที่เป็นอยู่เยอะเลยทีเดียวเชียว

โดยให้ 2 คะแนนจาก 5 คะแนน

@พริตตี้ปลาสลิด



การ์ตูนเรื่อง Seraph of the End ได้ทำเป็นอนิเมชั่นแล้ว



ซึ่งถ้าลองนึกถึงนิตยสารการ์ตูนญี่ปุ่นรายสัปดาห์สักเล่มเชื่อว่าหลายคนคงนึกถึง Jump เป็นเล่มแรก เพราะเป็นนิตยสารการ์ตูนที่ขายดีที่สุดในญี่ปุ่นแล้ว ซึ่งการ์ตูนทุกเรื่องในนิตยสารเล่มนี้ ล้วนแต่มีการคัดกรองคุณภาพทั้งลายเส้นและความสนุกของเนื้อเรื่อง ส่วนมากก็จะได้รับความนิยมมากและได้นำไปทำเป็นอนิเมชั่นหลายเรื่อง อย่างล่าสุดก็คือ Owari no Seraph หรือ Seraph of the End: Vampire Reign เซราฟแห่งจุดจบ แวมไพร์ครองโลก ของนิตยสาร Jump Square ที่เป็นฉบับรายเดือน

โดยที่การ์ตูนเรื่อง Seraph of the End เริ่มลงในนิตยสาร Jump Square เมื่อปลายปี 2013 เมื่อไม่นานมานี้เอง ตอนนี้รวมเล่มก็เพิ่งถึงฉบับที่ 6 เท่านั้นและกำลังจะมีอายุครบ 1 ปีเร็วๆนี้ ทางเว็บไซต์ Jump Suare ได้ประกาศว่ามีโปรเจคจะนำการ์ตูนเรื่อง Seraph of the End มาทำเป็นอนเมชั่นในโอกาสที่เรื่องนี้มีอายุครบ 1 ปีนั่นเอง โดยตอนนี้ยังอยู่ในช่วงประชุมโปรเจคกันอยู่จึงยังไม่เปิดเผยทีมงานสร้างและกำหนดฉาย คาดว่าจะเปิดเผยข้อมูลต่างๆได้ในนิตยสาร Jump Square ฉบับต่อไป





สำหรับเนื้อเรื่องตัวอย่างหนังใหม่ของ Seraph of the End นั้นจะเป็นแนวดาร์คแฟนตาซีที่เต็มไปด้วยเลือด ซึ่งจะเป็นการต่อสู้ของมนุษย์กับแวมไพร์ โดยเรื่องทั้งหมดเริ่มขึ้นจากการล่มสลายของมนุษย์ เมื่อมีโรคระบาดที่ไม่สามารถรักษาได้เกิดการระบาดอย่างรวดเร็ว และโรคนี้จะคร่าชีวิตมนุษย์วัยผู้ใหญ่ทั้งหมดไป ทำให้โลกเหลือเพียงแต่เด็กที่อายุไม่เกิน 13 ปีเท่านั้น ช่วงนี้เองเผ่าพันธุ์แวนไพร์ที่อาศัยอยู่ในโลกใต้พิภพมาตลอดได้ขึ้นมาปกครองโลกแทนมนุษย์ และได้จับเอาเหล่าเด็กๆที่รอดชีวิตให้อยู่ใต้ปกครองไปอยู่โลกใต้ดินแทน โดยการรีดเลือดจากเด็กๆไว้เป็นอาหารเหมือนทำฟาร์มปศุสัตว์ จนกระทั่ง Yuichiro Hyakuya ตัวเอกของเรื่องร่วมกับเพื่อนๆของเขาวางแผนหนีออกมา แต่ว่าเขาเป็นเพียงคนเดียวเท่านั้นที่หนีรอดออกมาสู่โลกเบื้องบนได้



เมื่อน้อง แม็ค-พรีม พริ้วเจองานหินโชว์ฝีมือเทพ ช่างศิลป์วัยกระเต๊าะ จากหนังดังเรื่อง ตุ๊กแกรักแป้งมาก


โดยที่ แม็คและพรีม พริ้วได้เจองานหินโชว์ฝีมือเทพ


ภาพของช่างศิลป์วัยกระเต๊าะ


หลังจากที่เปิดซีนแรกพระเอกรุ่นจิ๋ว 
  • แม็ค ณัฐพัชร์ นิมจิรวัฒน์
  • พรีม  ชนิกานต์ ตังกบด

ซึ่งก็ได้เจองานหินซะแล้ว เมื่อกระโดดขึ้นจอเงินครั้งแรกในภาพยนตร์เรื่อง  ตุ๊กแกรักแป้งมาก จากค่ายทรานส์ฟอร์เมชั่น ฟิลม์ ของผู้กำกับคนเก่ง ต้อม-ยุทธเลิศ สิปปภาค

โดยที่ฉากเขียนป้ายนี้ถ่ายทำกันอยู่ทั้งวันเต็ม ๆ เพื่อความสมจริงซึ่งนั่นไม่ใช่ปัญหา เพราะก่อนเข้าฉากเพื่อความสมจริงผู้กำกับต้อม หรือ ยุทธเลิศ สิปปภาค ได้จับแม็ค หรือ ณัฐพัชร์ นิมจิรวัฒน์ นั้นมาซ้อมทำท่าทาสีเพื่อให้คุ้นมืออยู่พักใหญ่ พร้อมกับพรีม หรือ ชนิกานต์ ตังกบดี แม้จะงอแง้อยู่บ้างเพราะขีดโน่น เขียนนี่เอง แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาหลักเพราะพอผู้กำกับอธิบายปุ๊บก็ทำไหลลื่นไม่ติดขัดสามารถทำได้พลิ้วซะไม่มี


โดยที่ฉากนี้แม็คที่รับบทตุ๊กแก ในวัยเด็ก นั้นต้องมาช่วยครูป๋อง แสดงโดยอังเคิล วัฎดิเรก เพื่อเขียนใบปิดหนังซึ่งซีนถือว่าโชว์ความสามารถของทั้งคู่เต็มที่แม้ดูจะเป็นงานหินแต่ก็หมดห่วงเพราะดูตัวอย่างจากครูป๋องแล้วก็มีพี่ต้อม ยุทธเลิศ สิปปภาค นั้นมาคอยดูแลอย่างใกล้ชิดพอสั่งแอ็คชั่นปุ๊บทั้งที่ต้องร่วมเฟรมก็ค่อยๆระบายสีตามที่พี่ต้อมบอกไว้เพื่อให้กล้องได้แพลนขณะกำลังวาดภาพอยู่พักใหญ่แล้วเก็บภาพทั้งตอนเขียนตัวหนังสือและเปลี่ยนมุมกล้อง จนได้ตามที่พี่ต้อมต้องการถึงได้เปลี่ยนมุม 

ซึ่งซีนนี้ไม่ใช่ซีนหนักอะไรทั้งคู่พูดกันไม่กี่ประโยคก็ฉลุย ยิ่งแม็คอยู่ในกองแม้จะซนเหมือนเด็กแต่พอให้เข้าฉากโชว์ความสามารถก็ทำได้เกินเด็ก

หลังจากที่ แม็ค ได้ใจถึงฉากพิเศษนี้ว่า ฉากนี้ไม่ยากคับเพราะอาต้อมค่อยๆ อธิบายให้ฟังตลอดแล้วก็มีพรีมเข้าฉากเป็นเพื่อนด้วยเลยเหมือนได้นั่งเล่นกันมากกว่า แถมในฉากก็มีลุงอังเคิลด้วยครับที่ใจดีมากๆ เลยหมดห่วงว่าจะเล่นไม่ได้ ที่สำคัญลุงต้อมใจเย็นมากครับๆ ไม่ดุเลยค่อยๆ อธิบายให้ฟังว่าจะต้องการมุมไหนก่อน ระบายสีแบบไหน ส่วนพี่พรีมก็พริ้วอยู่แล้วครับคุยแค่ไม่กี่ประโยคอาต้อมก็สั่งคัท





โดยสามารถรอชมผลงานภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของผู้กำกับ ต้อม-ยุทธเลิศ สิปปภาค พร้อมทัพนักแสดง อาทิ 
  • เก้า จิรายุ ละอองมณี เป็นรุ่นโต
  • เพลง ชนม์ทิดา อัศวเหม เป็นรุ่นโต 
และนักแสดงกลุ่มวัยซนอีกมากมาย 
  • แม็ค ณัฐพัชร์ นิมจิรวัฒน์ เป็นรุ่นเด็ก
  • พรีม ชนิกานต์ ตังกบดี เป็นรุ่นเด็ก




ในวันที่ 28 สิงหา เรื่องตลกในอดีต เรื่องสวีทในวันวาน

นั้นจะกลับมาหวานฟรุ้งฟริ้งพร้อมกันทุกโรงภาพยนตร์



โดยที่ตุ๊กแกรักแป้งมาก อิ่ม สุข ซึ้ง แฟนหนังยกนิ้ว นี่คืองานมาสเตอร์พีซ


กับความเต็มอิ่มสุขใจซาบซี้งแบบหน้าเปื้อนรอยยิ้มกันอย่างถ้วนทั่ว สำหรับรอบปฐมทัศน์ภาพยนตร์เรื่อง ตุ๊กแกรักแป้งมาก ผลงานเปิดตัวเรื่องแรก บริษัทน้องใหม่ของวงการจอเงิน ทรานส์ฟอร์เมชั่น ฟิล์ม จำกัด ซึ่งจัดขึ้นแบบอลังการในแบบยุคพาเลส ณ ลานอินฟินิซิตี้ฮอลล์ ชั้น 5 พารากอนซีนีเพล็กซ์ สยามพารากอน เมื่อทุกคนลงทะเบียนแล้วเข้าสู่บริเวณงานก็ได้ฟังเพลงเบาๆ จากมินิคอนเสิร์ต จากวงเดอะพาเลส และต่อด้วยเพลงสนุกๆ ชนิดที่แขกผู้มีเกียรตินั่งไม่ติดเก้าอี้ ต้องขอโยกตาม กับเมดเลย์ที่สร้างสีสันให้กับงานอยู่ไม่น้อย ทั้งเพลง เพียงสบตา และ เพลง รอวันฉันรักเธอ 




ซึ่งด้วยไฮไลท์เด็ดโชว์ เพลง รักเธอคนเดิม จาก เก้า จิรายุ ละอองมณี ก่อนจะเพิ่มสีสันให้บนเวทีด้วยการโชว์เต้น เพลง เขิน จากแก๊งนักแสดงเด็กๆ ที่นำทีมโดย 1.น้องแม็ค , 2.น้องพรีม 

โดยได้สร้างความน่ารักน่าชังให้งาน เพราะแขกก็ต่างอมยิ้มกับท่าเต้น และความตั้งอกตั้งใจของเด็กๆ กัน หลังจากนั้นเมื่อพิธีกร หญิง สุกัญญา ไรวิน ได้เชิญนักแสดงนำอย่าง  
  1. เก้า-จิรายุ ละอองมณี 
  2. แม็ค-ณัฐพัชร์ นิมจิรวัฒน์ 
  3. พรีม-ชนิกานต์ ตังกบดี  
  4. ผู้กำกับ ต้อม-ยุทธเลิศ สิปปภาค 

ได้ขึ้นเวทีพูดคุยถึงเบื้องหน้าและเบื้อง หลังการทำงาน ซึ่งก็เป็นการกระตุ้นให้ทุกคนอยากที่จะเข้าไปชมภาพยนตร์ให้เร็วขึ้นอีก เสียดายก็แต่นางเอกสาวคนสวย ลูกสาวคนเดียวของ แม่ตู่ นันทิดา เพลง-ชนม์ทิดา อัศวเหม ไม่สามารถมาร่วมงานได้เนื่องจากป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ แต่ส่วนทีมนักแสดงก็ส่งกำลังใจและอวยพรให้หายเร็ว ๆ เช่นกัน





โดยหลังจากจบการสนทนานักแสดงและตัวแทนจากค่ายทรานส์ฟอร์เมชั่น ฟิล์ม จำกัด และพันธมิตร ต่างร่วมถ่ายรูปรวมจากผู้บริหารและตัวแทนอาทิ 
  • 1.คุณธนกร ปุลิเวคินทร์ เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของบริษัท เอ็ม พิคเจอร์ส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด มหาชน  
  • 2.คุณสง่า ฉัตรชัยรุ่งเรือง เป็นประธานเจ้าหน้าที่ บริหาร ของบริษัท ทรานส์ฟอร์เมชั่น ฟิล์ม Transformation Films
  • คุณพีรธน เกษมศรี ณ อยุธยา เป็นกรรมการผู้จัดการ บจ. ของทรู ไอคอนเท้นท์ 
  • คุณคมปกร วัจนะรัตน์ เป็นกรรมการผู้จัดการ ของบริษัท แบ็งคอค ฟิล์มสตูดิโอ 
  • คุณภูมิชาย วัชรพงศ์ เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของบริษัท แม็ทชิ่ง สตูดิโอ พลัส 

โดยที่ก่อนสื่อมวลชนจะสัมภาษณ์นักแสดงตามอัธยาศัยและเริ่มทยอยเข้าชมภาพยนตร์ ตุ๊กแกรักแป้งมาก


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น