การกลับมาอีกครั้งของสายลับ007ในหนังเรื่องTHE NOVEMBER MANและตัวละครในเรื่อง OnePiece 3D2Y

หนังเรื่อง THE NOVEMBER MAN และการกลับมาของสายลับ 007

ซึ่งนี่ดูเหมือนว่าหลังจากยุคของ เพียร์ซ บรอสแนน พักยกจากการรับบทเป็นสายลับในตำนานอย่าง เจมส์ บอนด์ แล้ว เขาก็แทบจะไม่ได้รับผลงานแนวแอ็คชั่นซักเท่าไหร่ หลังจากที่เขารับบทสายลับครั้งสุดท้ายใน Die Another Day ในปี 2002 ภายหลังจากนั้นผลงานของเพียร์ซก็มักจะเป็นแนวแอ็คชั่นผสมกับคอมมาดี้แบบใน After the Sunset หรืออย่างใน The Matador ก่อนจะเบนเข็มไปรับบทหนุ่มเจ้าสำราญทรงเสน่ห์อาทิ Mamma Mia! หรือ Laws of Attraction และหนังรักเล็กๆอีกมากมายหลายเรื่อง ซึ่งก็มักจะไม่ได้เข้าฉายในบ้านเราเสียส่วนใหญ่

ซึ่งล่าสุดป๋าเพียร์ซก็ได้ตัดสินใจที่จะกลับมารับบทนำในหนังแอ็คชั่นสายลับอีกครั้งกับเรื่อง The November Man ซึ่งบอกเล่าเรื่องราวของ ปีเตอร์ เดเวอร์รีอ๊อกซ์ อดีตสายลับสุดอันตราย และได้รับฉายาว่า November Man เขาถูกเรียกให้กลับมาปฏิบัติภารกิจระดับชาติอีกครั้ง และต้องเผชิญหน้ากับลูกศิษย์ที่เขาฝึกมากับมือ รวมถึงต้องปกป้องเจ้าหน้าที่สังคมสงเคราะห์สาวสวยอย่างอลิซ หรือโอลก้า คูลีแลนโก้ ที่เป็นกุญแจสำคัญที่นำไปสู่แผนก่อการร้ายระดับนานาชาติ

แต่ถ้าจะว่าไปแล้วนี่เป็นการโคจรมาพบกันระหว่างเจมส์ บอนด์และสาวบอนด์ หรือโอลก้า เคยเป็นสาวบอนด์ของแดเนียล เคร๊กใน Quantum of Solace เมื่อปี 2008 

ในเรื่องตัวหนังได้รับการกำกับโดยโรเจอร์ โดนัลสันที่มีผลงานแอ็คชั่นมาจากเรื่อง 1.The Bank Job, 2.Species, 3.The Recruit และเขาก็เคยร่วมงานกับเพียร์ซสมัยหนังภูเขาไฟระเบิดเรื่อง Dante's Peak มาแล้ว 

และในตัวหนังของ The November Man เองนั่นดัดแปลงมาจากนวนิยายแนวสายลับชื่อเรื่อง There Are No Spies ของนักเขียนบิลด์ แกรนเจอร์ ตีพิมพ์ชึ้นในปี 1987 ดัดแปลงมาเป็นบทภาพยนตร์โดยไมเคิล ฟินช์และคาร์ล กัซดูเซค

โดยที่จริงแล้วโครงการสร้างของ The November Man นั้นเคยถูกวางเอาไว้ตั้งแต่ปี 2006 แต่ว่าโครงการก็พับเก็บไป ซึ่งตัวเพียร์ซ บรอสแนนเองก็เป็นหนึ่งในคนตัดสินใจ เนื่องจากเขาดำรงตำแหน่งเป็นโปรดิวเซอร์ของหนังเองด้วย เขาเลยเก็บลิขสิทธิ์การสร้างของนิยายเอาไว้จนกระทั่งตอนปี 2012 เขาก็ได้ประกาศว่าจะมีการสร้างหนังเรื่องนี้และจะมีดารานำอย่างโดมินิค คูเปอร์มาร่วมแสดงด้วย แต่ท้ายที่สุดแล้วโดมินิคก็ติดงานแสดงเรื่องอื่นไป

หนังเรื่อง The November Man มีกำหนดการเข้าฉายในไทยวันที่ 4 กันยายน 2557

ตัวอย่างหนังใหม่เรื่อง The November Man

หนังเรื่องเดชนางพญาผมขาว ได้เปิดตัวผงาดขึ้นอันดับ 1 ติดต่อกัน 2 สัปดาห์ กวาดรายได้ไปกว่า พันหกร้อยล้านบาท


หลังจากที่ได้เปิดตัวฉายไปแล้วอย่างเป็นทางการในจีน สำหรับภาพยนตร์ที่หลายคนรอชม The White Haired Witch of Lunar Kingdom หรือ เดชนางพญาผมขาว เวอร์ชั่นล่าสุด ที่เป็นผลงานสร้างสุดอลังการโดย พ่อมดแห่งเอเชีย ฉีเคอะ ในสัปดาห์แรกเปิดตัวสูงถึง 35.9 ล้านเหรียญ หรือ พันหกี้อยล้านบาท 

เรียกได้ว่าเป็นการเปิดตัวได้สูงกว่าหนังฮิตอย่าง Painted Skin: The Resurrection โปเยโปโลเย ศึกรักหน้ากากทอง และ Young Detective Dee ตี๋เหรินเจี๋ย ผจญกับดักเทพมังกร และสร้างปรากฏการณ์ในสัปดาห์ที่สองก็ยังครองแชมป์อันดับหนึ่ง ซึ่งหนังได้ทำเงินเพิ่มอีก 19.7 ล้านเหรียญ สร้างความเซอร์ไพร์ซให้หนังเรื่องนี้เป็นอย่างมาก แถมยังมี 2 นักแสดงสุดฮ็อตอย่าง ฟานปิงปิง จากเรื่อง X-Men: Days of Future Past และ หวงเสี่ยวหมิง จาก American Dreams in China มาสร้างสีสันให้กับเวอร์ชั่นใหม่ได้โดดเด่นเป็นอย่างมาก ยูไนเต็ด โฮม เอ็นเตอร์เทนเมนท์ 

เตรียมพบ The White Haired Witch of Lunar Kingdom หรือ เดชนางพญาผมขาว จะได้ชมอีกไม่นานเกินรอ 11 กันยายนนี้ เข้าฉายเฉพาะเครือ เอส เอฟ เท่านั้น

เมื่อไทรสตาร์ เริ่มการผลิตภาพยนตร์เรื่อง THE WALK

ในเมือง มอนทรีออล แคนนาดา วันที่ 6 สิงหาคม 2557  ทาง Tristar production ได้ออกแถลงข่าวอย่างเป็นทางการของภาพยนตร์ที่มีชื่อเรื่อง The Walk 

กำกับภาพยนตร์โดย ROBERT ZEMECKIS ซึ่งเป็นผู้กำกับภาพยนตร์ดังหลายเรื่อง เช่น 

1. Forrest Gump
2. Cast Away
3. Back to The Future 

สำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างมาจากหนังสือเรื่อง TO REACH THE CLOUDS ของ LEVITT PHILIPPE PETIT ที่ไม่กลัวที่จะฝัน และกล้าที่ทำฝันนั้นให้เป็นจริง ด้วยการเดินบนเส้นลวดที่พาดระหว่างสองตึกสูงระฟ้าในนิวยอร์ก World Trade Center towers 7 สิงหาคม คริตศักราช 1974 เป็นวันครบรอบ 40 ปีของเหตุการณ์ที่น่าจดจำครั้งนี้

เรื่อง THE WALK 

กำกับภาพยนตร์โดย ROBERT ZEMECKIS 

นำแสดงโดย JOSEPH GORDON-LEVITT 

ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างมาจากหนังสือเรื่อง  TO REACH THE CLOUDS” ของ LEVITT PHILIPPE PETIT 

เป็นการที่ได้เล่าเรื่องราวผู้ยิ่งใหญ่ 12 คนที่ได้เดินบนดวงจันทร์ แต่มีแค่เพียงคนเดียว นั้นก็คือ JOSEPH GORDON-LEVITT หนุ่มช่างฝัน ที่กล้าทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ โดยการลักลอบเดินบนลวด ระหว่างอาคารเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ ชายผู้ที่เดินบนความว่างเปล่าอันยิ่งใหญ่ระหว่างอาคารเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ ด้วยการสนับสนุนและรับคำแนะนำจาก Papa Rudy หรือ Ben Kingsley

และนอกจากนี้ยังมีนักแสดงในภาพยนตร์เรื่องนี้ยังมี 

1. James Badge Dale
2. Ben Schwartz
3. Charlotte Le Bon
4. Clément Sibony และ 
5. César Domboy. 
6. 
   

โดยที่ท่านติดตามความคืบหน้าของ THE WALK ได้ที่ http://movie.sanook.com/

เตรียมเผยโฉมเหล่าตัวร้ายใน One Piece 3D2Y

ซึ่งถ้าใครได้ติดตามอ่านการ์ตูนวันพีชมาโดยตลอดล่ะก็ จะรู้ว่าอาจารย์โอดะแกไม่ทิ้งเนื้อเรื่องของการ์ตูนเรื่องนี้ไว้เป็นช่องโหว่เลย ทุกอย่างล้วนมีปมปริศนาและมีที่มาที่ไปทั้งนั้น ขนาดตัวละครที่หมดบทบาทไปแล้ว แกยังนำมาเขียนเป็นเรื่องสั้นให้รู้เนื้อเรื่องในหน้าแรกของแต่ละตอนเลย 

และดังนั้นเหตุการณ์ในระหว่าง 2 ปีหลังสงครามมารีนฟอร์ด ลูฟี่ตัดสินใจจะฝึกฝนวิชาฮาคิกับราชานรกเรลี่บนเกาะอเมซอนลิลลี่ของ โบอา แฮนค็อก ส่วนพรรคพวกคนอื่นๆๆก็ฝึกฝนกันตามเกาะต่างๆที่ บาโซโลมิว คุมะ ใช้พลังส่งตัวไป โดยลูฟี่นัดหมายพรรคพวกว่าจะไปพบกันอีกหลังในอีก 2 ปีข้างหน้าที่เกาะชาบอนดี้

จงระวังคลิปอาจ Spoiled เนื้อเรื่อง

โดยที่เนื้อเรื่องของ One Piece 3D2Y ช่วงที่กลุ่มหมวกฟางฝึกกันอยู่ 2 ปีนี้ ในฉบับหนังสือการ์ตูนไม่ได้พูดถึงมากนักว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง มาอีกทีก็ฝึกกันเสร็จและเจอกันในอีก 2 ปีต่อมาเลย 

แต่ว่าจริงๆแล้วช่วง 2 ปีนี้ก็ไม่ได้เงียบสงบอย่างที่คิด เพราะมีศึกหนักกับลูฟี่และคนอื่นเหมือนกัน ซึ่งเกาะอเมซอนลิลลี่ของ โบอา แฮนค็อก นั้นแม้เธอจะเป็น 7 เทพโจรสลัดทำให้ทหารเรื่อไม่เข้ามายุ่ง 

ก็ไม่ได้จะไม่มีพวกโจรสลัดวายร้าย ซึ่งกลุ่มหนึ่งที่ได้รู้ว่าลูฟี่หลบซ่อนตัวอยู่ที่นี่และหมายจะเอาค่าหัวของลูฟี่และโบอาให้ได้ ซึ่งพวกนั้นก็คือกลุ่มโจรสลัด Bandy World อาชญากรระดับ 6 ดาวที่หลุดออกมาจากคุกอิมเพลดาวน์ได้ ตอนที่ลูฟี่บุกเข้าไปช่วยเอส

และอาจารย์โอดะได้เผยโฉมหน้ากลุ่มโจรสลัด Bandy World ให้เห็นกันแล้ว มีด้วยกัน 5 คน ซึ่งอาจจะเยอะกว่านี้ โดยมีรายชื่อตัวละครและนักพากย์ดังนี้

ตัวละคร World หัวหน้ากลุ่มโจรสลัด Bandy World มีพลังของผล MoaMoa 

ที่พากย์โดย Arata Furuta 13 จากเรื่อง Assassins

ตัวละคร ByoJack สมาชิกขี้โรค กลุ่มโจรสลัด Bandy World 

ที่พากย์โดย Bin Shimada จากเรื่อง Dragon Ball's Broly

ตัวละคร Gairam ผู้คลั่งค้อน กลุ่มโจรสลัด Bandy World 

ที่พากย์โดย Mitsuo Iwata

ตัวละคร Sebastian มนุษย์เงือก กลุ่มโจรสลัด Bandy World 

ที่พากย์โดย Shōto Kashii

ตัวละคร Naichin เจ๊ใหญ่ กลุ่มโจรสลัด Bandy World 

ที่พากย์โดย Yūko Mizutani

และนอกจากนี้ลูฟี่และโบอา ยังมีการดีไซน์ชุดเสื้อผ้าใหม่ด้วย ดูได้จากภาพด้านล่าง

One Piece 3D2Y กำหนดฉายในวันที่ 30 สิงหาคม 2014 ช่อง Fuji TV ของญี่ปุ่น ไทยเราก็รอชมแบบแผ่น DVD เอา

ล่าสุดโซนี่เตรียมคลอด SPIDER-MAN 

ภาคแยกเวอร์ชั่นตัวละครผู้หญิง

โดยหลังจากที่ The Amazing Spiderman ได้สามารถต่อยอดความสำเร็จให้กับสตูดิโอได้อย่างงดงาม และทางสตูดิโออย่างมาร์เวลก็เป็นปลื้มกับ Guardians of the Galaxy แต่สตูดิโอมาร์เวลก็มองว่าปัจจุบันนี้ช่างขาดแคลนเหล่าซูเปอร์ฮีโร่เพศหญิงเอาซะเหลือเกิน ดังนั้นนี่คงจะเป็นโอกาสสำคัญที่จะลองให้ตัวละครหญิงในโลกยอดมนุษย์ได้มีเรื่องราวเป็นของตัวเองบ้าง

และอย่างไรก็ตามเทรนด์ล่าสุดที่สตูดิโอค้นพบจากการวิจัยว่านั้นพบว่านักดูหนัง เพศหญิง จำนวนถึง 44% ซึ่งวัดจากการซื้อตั๋วเข้าชม Guardians of the Galaxy ซึ่งนั่นหมายความกลุ่มตลาดผู้หญิงดูหนังยังเป็นส่วนแบ่งการตลาดที่ยังน่าเข้าไปเจาะกลุ่มอยู่ประกอบกับ ตัวหนังที่มีผู้หญิงเป็นตัวเดินเรื่องสามารถทำเงินและประสบความสำเร็จในตลาดโลกก็ได้แก่ The Hunger Games: Catching Fire และ Frozen

และทางด้านโซนี่ พิกเจอร์ที่ถือสิทธิ์ของ สไปเดอร์แมน ก็ตัดสินใจ สปินส์ออฟภาคแยกของตัวละครหญิงใน Spiderman ออกมา ซึ่งวางกำหนดการเข้าฉายเอาไว้ช่วงปี 2017 

โดยที่ทางสตูดิโอเองตั้งใจจะขยายจักรวาลของสไปเดอร์แมนให้กว้างขึ้น เนื่องจากโซนี่ถือสิทธิ์ของมาร์เวลไว้เพียงเรื่องนี้เรื่องเดียว และเป็นหนังที่ทำเงินให้สตูดิโอมากที่สุดเรื่องหนึ่งด้วย ตัวมือเขียนบทโซนี่ตั้งใจจะใช้บริการ ลิซ่า จอย โนแลน ซึ่งเป็นคนทำบทให้กับซีรีย์ Burn Notice และ Westworld

ซึ่งนอกจากนี้เธอยังเป็นภรรยาของโจนาธาน โนแลนมือเขียนบทของ The Dark Knight ซึ่งเป็นน้องชายของคริสโตเฟอร์ โนแลนด้วย

และด้วยการประกาศออกมาอย่างไม่เป็นทางการนักว่าตัวละครที่จะถูกนำมาสร้างเป็นหนังนั้นจะเป็นตัวละครใด แต่ถ้าหากจะลองพิจารณาจากตัวเลือกที่น่าจะมีศักยภาพที่จะกลายเป็นตัวเดินเรื่องได้มากที่สุดก็คือ แบล็ก แคทหรือชื่อจริงของเธอในหนังสือการ์ตูนก็คือ เฟลิเชีย ฮาร์ดี้ ซึ่งแสดงโดย เฟลิซิตี้ โจนส์ ซึ่งเธอเคยออกหน้ากล้องมาแล้วใน The Amazing Spider-Man 2

ซึ่งไม่ว่าโครงการนี้จะออกมาจริงหรือไม่ หรือจะเป็นตัวละครใดก็ตาม The Sinister Six ถูกวางโปรแกรมฉายไว้วันที่ 11 พฤศจิกายนปี 2016 และ Venom ที่ยังไม่ได้กำหนดวัน ส่วน The Amazing Spider-Man 3 วางเอาไว้ในช่วงปี 2018

มาวิจารณ์หนังเรื่อง 22 Jump Street

เรียกได้ว่าความสรวลเสเฮฮาของหนังอย่าง 22 Jump Street นั้นมาจากมุกตลกที่ผ่านการกลั่นกลองมาเป็นอย่างดีของผู้กำกับรุ่มรวยอารมณ์ขันอย่าง ฟิล ลอร์ด และ คริส มิลเลอร์ ซึ่งความสำเร็จของหนังภาคแรกอย่างถล่มทลายนั้น ทำให้เรารู้ว่าหนังที่เดินเรื่องตามสูตรสำเร็จเดิมๆก็สามารถสนุกเกินตัวได้ หากหนังมีไอเดียและวิธีเล่าเรื่องที่เฉลียวฉลาดเพียงพอ

สำหรับเหตุการณ์ในหนังภาคแรกหรือ 21 Jump Street นั้นเล่าเรื่องราวของ ชมิดด์(โจนาห์ ฮิลล์) และ เจนโก้(แชนนิ่ง ทาทั่ม) สองนายตำรวจหนุ่มที่กลายมาเป็นคู่หูกันแล้วต้องแฝงตัวแอ๊บเด็กกลายเป็นเด็กไฮสคูลเพื่อสืบหาค้นหาผู้ค้ายาเสพย์ติดที่แฝงตัวอยู่ในโรงเรียน 

และจะได้โยงใยไปสู่เจ้าพ่อคนบงการตัวจริง การเดินเรื่องในรอบหนังภาคแรกนั้นเป็นไปในทิศทางสไตล์ของหนังคู่หูที่เล่นกับบุคลิกของคนที่ไม่น่าจะเข้าขากันได้ 

จนสุดท้ายพวกเขาก็ต้องมาทำงานร่วมกันและปรับความเข้าใจซึ่งกันและกัน โดยระหว่างทางสถานการณ์ต่างๆก็จะหล่อหลอมให้ทั้งคู่สามารถเอาชนะข้อจำกัดของตัวเองและทำภารกิจที่ได้รับมาให้สำเร็จ

ซึ่งเหตุการณ์ในหนังภาคที่ 2 ก็ไม่ได้แตกต่างอะไรจากภาคแรกเท่าไหร่นัก เปลี่ยนฉากหลังจากมัธยมไฮสคูลให้กลายมาเป็นมหาวิทยาลัยแทน และเมื่อบริบทแวดล้อมโตขึ้น ทั้งคู่ก็ต้องแอ๊บเด็กให้เข้ากับวัยเฟรชชี่ ซึ่งการสืบคดียาเสพย์ติดที่มีตัวการอยู่เบื้องหลังก็ไม่ใช่เรื่องง่าย 

เนื่องจากว่าชมิดด์และเจนโก้เองก็มีเบาะแสเพียงเล็กน้อย ซึ่งไม่เพียงพอต่อการสาวตัวไปยังตัวการใหญ่ ทั้งที่จริงๆแล้วสิ่งที่ทั้งคู่ไม่ทันได้นึกถึงก็คือความจริงอาจจะอยู่ใกล้ตัวพวกเขาเพียงแค่ปลายจมูก

ซึ่งความสามารถในการปิดบังอำพรางตัวการที่แท้จริงของหนัง ก็นับได้ว่าผู้กำกับอุบไต๋ของเรื่องได้น่าสนใจ และสิ่งที่ทำให้คนดูตลกขบขันมากที่สุดในโปรแกรมหนังภาคนี้ก็คือการที่หนังพยายามล้อเลียนขนบของหนังภาคต่อเอาไว้อย่างชาญฉลาด ด้วยท่าทีประชดประชันของเรื่อง น้ำเสียงในการยั่วล้อสิ่งที่หนังภาคต่อมักจะหยิบจับเอามาใส่ในพล็อตแนวหนังคู่หู 

ตัวหนังก็แม่นยำในการโยนสถานการณ์สุดโปกฮา ชนิดที่ว่าไม่ขำมุมปาก ก็ฮาชนิดกรามค้าง โดยเฉพาะมุกแอ้มลูกสาวเจ้านาย ใครไม่ขำฉากนี้เรียกได้เลยว่าคุณเส้นลึกของจริง

สำหรับข้อแนะนำอีกประการหนึ่งที่จะทำให้คุณดูหนังอย่าง 22 Jump Street สนุกขึ้นก็คือการโยนตรรกะบางอย่างในแง่ความสมจริงทิ้งไป แล้วพยายามทำความเข้าใจกับโทนหนังว่ามันเป็นหนังแนวยั่วล้อตัวเอง และก็ต้องขอบคุณการแสดงที่รับส่งกันอย่างเข้าขาของโจนาห์ ฮิลล์ และ แชนนิ่ง เททั่ม 

ซึ่งเหตุการณ์ในภาคนี้ดีกรีความจิ้นวายหรือแนวโบรแมนซ์จะยิ่งทวีดีกรีความสนิทแน่นแฟ้นมากขึ้นเยอะกว่าภาคแรก

หนังเรื่อง 22 Jump Street น่าจะเป็นตัวเลือกชั้นดีสำหรับคนที่ต้องการจะไปบริหารกราม แก้เครียดครับ



ยกให้ 4 คะแนนจาก 5 คะแนน

@พริตตี้ปลาสลิด