วิจารณ์หนังใหม่เรื่อง ฝากไว้ในกายเธอ
โดยส่วนตัวแล้วอาจจะมองว่าหนังอย่างฝากไว้ในกายเธอนั้น มีวัตถุดิบอย่างนักแสดงนำที่เป็นกระแสที่พอจะเป็นตัวชูโรงที่จะเรียกแขกให้มาตีตั๋วดูหนังได้ประมาณหนึ่ง เนื่องด้วยกระแสของซีรีย์อย่าง ฮอร์โมน เดอะซีรีย์ ที่กำลังฟีเวอร์อยู่หมู่วัยรุ่นนั้นยิ่งทำให้กระแสของ ฝากไว้ในกายเธอ นั้นมีความน่าสนใจอย่างเพิ่มเท่าตัว
แต่ว่าอย่างไรก็ตามด้วยพล็อตหลักของตัวหนังที่เล่าถึงความสัมพันธ์เชิงชิงรักหักสวาทและเกี่ยวพันกับความตายนั้นกลับถูกเล่าออกมาด้วยท่าทีแบบเดิมๆ ซึ่งคนที่ดูหนังมาเยอะประมาณหนึ่ง คงจะพบว่าในเช็ครอบหนังไม่มีอะไรที่อยู่เหนือความคาดหมาย มิหนำซ้ำหลายองค์ประกอบในเรื่องก็ค่อนข้างอยู่ในเกณฑ์น่าผิดหวัง (สิ่งที่น่ารำคาญที่สุดในเรื่องก็คือการใช้เสียงตุ้งแช่ที่เกินความจำเป็น)
และถ้าหากจะให้ลองเปรียบเทียบกับผลงานก่อนหน้าของผู้กำกับคนเก่ง จิม โสภณ ศักดาพิศิษฏ์ อย่าง เรื่องลัดดาแลนด์ และหนังโปรแกรมหน้าวิญญาณอาฆาต แล้วหนังเรื่อง ฝากไว้ในกายเธอ คุณภาพของหนังค่อนข้างมีความใกล้เคียงกับเรื่องหลังซะมากกว่า นั้นคือค่อนข้างโฉ่งฉ่าง ตีหัวเข้าบ้านและไม่มีอะไรในกอไผ่
โดยถ้าเมื่อลองวิเคราะห์ให้ดีแล้วหนังอย่างลัดดาแลนด์ที่ประสบความสำเร็จทั้งรายได้และคำวิจารณ์นั้นปัจจัยสำคัญที่แท้จริงของมันที่ทำให้หนังมีอะไรที่ติดค้างในความทรงจำนั้น สืบเนื่องมาจากองค์ประกอบหลายๆอย่างในเรื่องได้เกื้อหนุนกัน ไม่ว่าจะเป็นบทภาพยนตร์ที่เป็นมากกว่าหนังผี แต่ผีในเรื่องยังสะท้อนถึงความไม่มั่นคงของชนชั้นกลางได้อย่างล้ำลึก ในขณะที่นักแสดงนำของเรื่องก็ยังใช้ทักษะทางการแสดงที่ขับเน้นความเป็น ดราม่า ของหนังออกมาได้สะเทือนใจ และยังมีความลงตัวของงานโปรดักชั่นที่ทำให้บรรยากาศหลอกหลอนในเรื่องทรงพลัง น่าหวาดผวาอยู่ตลอดเวลา ซึ่งแน่นอนว่างานการกำกับของจิม ก็เป็นอีกหนึ่งส่วนที่ช่วยให้ลัดดาแลนด์ เป็นมากกว่าหนังผีดาษดื่นทั่วไปในท้องตลาด
แต่ทว่าหนังเรื่อง ฝากไว้ในกายเธอ ถ้าลองบริบทขององค์ประกอบแล้ว บทหนังค่อนข้างจะเล่าเรื่องราวแบบรวบรัดตัดตอน และนำเสนอเรื่องราว ความตายของ ไอซ์ หรือเก้า สุภัสสรา ธนชาต ในตอนที่เธอเป็นผี ได้ค่อนข้างธรรมดา ซึ่งเอาเข้าจริงแล้วหนังเรื่องนี้มาพร้อมวัตถุดิบชั้นดีหลายอย่างที่จะทำให้ตัวหนังก้าวไปไกลกว่าการเป็นแค่หนังผีที่ผีตามทวงความยุติธรรมคืนมา แต่มันสามารถเป็นหนังทริลเลอร์ที่ผู้ชมอยากจะเอาใจช่วยผู้ร้ายของเรื่องอย่าง เพิร์ท หรือมาร์ช จุฑาวุฒิ ภัทรกำพล ให้อำพรางความผิดของเขาให้มิดชิดจนกระทั่งหนังจบ
แต่เนื่องด้วยเหตุผลกลใดไม่ทราบ ทำให้ทั้งบทภาพยนตร์และวิธีการนำเสนอตัวละครออกมากลับไม่ทำให้ผู้ชมรู้สึก แคร์ หรืออยากจะทำให้เราเอาใจช่วยเพิร์ทให้เอาตัวรอดสักเท่าไหร่ ผู้ชมก็ได้แต่นั่งสังเกตการณ์ว่าเพิร์ทจะหาทางออกให้กับตัวเองอย่างไร ในสถานการณ์บีบบังคับเหล่านั้น ซึ่งการแสดงของมาร์ชเองก็ไม่ได้แม่นยำเพียงพอ และเห็นได้ชัดว่าตัวละครนี้ควรจะเก็บงำพิรุธ ให้เนียนกว่านี้ เพราะแค่ฉากแรกที่ แทน หรือต่อ ธนภพ ลีรัตนขจร แฟนหนุ่มของไอซ์พยายามจะ ลองใจ เพิร์ท ความจริงทุกอย่างก็เกือบจะแดงออกมาเพราะความเลิกลั่กของเพิร์ทเอง ซึ่งไม่แน่ใจว่านี่เป็นความบกพร่องของบทหรือการกำกับนักแสดงกันแน่
และสิ่งหนึ่งที่น่าเสียดายมากเข้าไปใหญ่คือ ในเมื่อตัวหนังทำให้พระเอกของเรื่องอย่างเพิร์ทเป็นตัวละครที่กระทำความผิดบางอย่างไว้ การปรากฏตัวของ ผี อย่างไอซ์จึงเป็นเสมือน ความผิด ที่ตามหลอกหลอนเพิร์ทโดยที่ดูหนังสามารถหยิบประเด็นทางจิตวิทยาเอามาเล่นกับสภาวะจิตใจที่สั่นคลอนของตัวละครนี้ก็ได้ แต่สุดท้ายหนังก็เลือกจะให้ ผีไอซ์ นั้นมีตัวตนอยู่จริงและแสดงอิทธิการหลอกหลอนผ่านฉากขย่มเตียง ผีหน้าเละที่ขอบแท่นกระโดดน้ำ ฯลฯ
ส่วนในเรื่องของความสมจริงสมจังในแง่ของกระบวนการทางการแพทย์ที่ใส่เข้ามาในเรื่องที่เป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์กันอยู่นั้น ในแง่ของความบกพร่องดังกล่าวก็ไม่ได้ทำลายตรรกะของตัวหนังเท่าไหร่นัก แต่สำหรับคนที่มีความรู้ด้านนี้มาพอสมควรอาจจะรู้สึกว่ามันคือช่องโหว่ประการใหญ่
ซึ่งถ้าเอาเข้าจริงๆแล้วเหตุเภทภัยประหลาดที่เกิดขึ้นกับตัวเพิร์ทหนัง ผู้สร้างเองก็คงตั้งใจจะให้หนังมอบบทเรียนสั่งสอนความผิดพลาดของตัวละครด้วยการลงโทษให้เพิร์ทได้รับกรรมจากสิ่งที่เขาทำเอาไว้
ถ้าจะว่ากันไปแล้วในส่วนของฉากจบของเรื่องที่ตัวเอกของเรื่องไม่ได้รับผลกรรมที่เขาได้กระทำไว้อย่างเป็นรูปธรรมก็ตาม ไม่มีใครจับได้ว่าเขากระทำความผิด แต่สิ่งที่ทรงพลังกว่าก็คือการที่ตัวละครนี้ต้อง รู้สึกผิด ไปกับการกระทำของตัวเองอยู่คนเดียว ประหนึ่งการตามหลอกหลอนไปชั่วชีวิตของผีไอซ์ ซึ่งไม่ว่าเพิร์ทจะมีชีวิตดีหรือร้ายเช่นไรก็ตามสิ่งที่เขาได้เคย กระทำเอาไว้ มันก็จะติดตัวเขาไปตลอดกาล
ยกให้ 2 คะแนนจาก 5 คะแนน
@พริตตี้ปลาสลิด
มาแล้ว DISTRICT 13 CITIZEN POSTER นักสู้จากเขต 13 พร้อมจุดไฟสงครามม็อกกิ้อีกครั้ง
โดยที่ District 13 หรือ เขต 13 เขตปริศนาที่ถูกปกปิดเป็นความลับมาโดยตลอดในภาพยนตร์เรื่อง The Hunger Games กำลังที่จะได้รับการเปิดเผยต่อแฟนภาพยนตร์ทั้งโลก ในฐานะฐานทัพสำคัญของทีมนักสู้ที่ต่างมีเป้าหมายเดียวกันคือการโค่นประธานาธิบดีสโนว์แห่งแคปิตอล และคืนอิสรภาพให้กับพลเมืองจากทั้ง 12 เขตแห่งพาเน็ม
เมื่อ District 13 Citizen Poster ได้มีโปสเตอร์ในธีมล่าสุดของ The Hunger Games: Mockingjay Part I ได้เผยให้เห็นภาพของบรรดาทีมนักสู้จากเขต 13 นำโดยที่
ถ้าจะว่ากันไปแล้วในส่วนของฉากจบของเรื่องที่ตัวเอกของเรื่องไม่ได้รับผลกรรมที่เขาได้กระทำไว้อย่างเป็นรูปธรรมก็ตาม ไม่มีใครจับได้ว่าเขากระทำความผิด แต่สิ่งที่ทรงพลังกว่าก็คือการที่ตัวละครนี้ต้อง รู้สึกผิด ไปกับการกระทำของตัวเองอยู่คนเดียว ประหนึ่งการตามหลอกหลอนไปชั่วชีวิตของผีไอซ์ ซึ่งไม่ว่าเพิร์ทจะมีชีวิตดีหรือร้ายเช่นไรก็ตามสิ่งที่เขาได้เคย กระทำเอาไว้ มันก็จะติดตัวเขาไปตลอดกาล
ยกให้ 2 คะแนนจาก 5 คะแนน
@พริตตี้ปลาสลิด
มาแล้ว DISTRICT 13 CITIZEN POSTER นักสู้จากเขต 13 พร้อมจุดไฟสงครามม็อกกิ้อีกครั้ง
โดยที่ District 13 หรือ เขต 13 เขตปริศนาที่ถูกปกปิดเป็นความลับมาโดยตลอดในภาพยนตร์เรื่อง The Hunger Games กำลังที่จะได้รับการเปิดเผยต่อแฟนภาพยนตร์ทั้งโลก ในฐานะฐานทัพสำคัญของทีมนักสู้ที่ต่างมีเป้าหมายเดียวกันคือการโค่นประธานาธิบดีสโนว์แห่งแคปิตอล และคืนอิสรภาพให้กับพลเมืองจากทั้ง 12 เขตแห่งพาเน็ม
เมื่อ District 13 Citizen Poster ได้มีโปสเตอร์ในธีมล่าสุดของ The Hunger Games: Mockingjay Part I ได้เผยให้เห็นภาพของบรรดาทีมนักสู้จากเขต 13 นำโดยที่
1.ประธานาธิบดีคอยน์ หรือจูลี่แอนน์ มัวร์
2.พลูตาร์ช หรือฟิลิป ซีมัวร์ ฮอฟฟ์แมน ซึ่งเป็นอดีตเกมเมคเกอร์เบื้องหลังแผนการสำคัญ
โดยที่ 1.เฮย์มิตช์ หรือวู้ดดี้ ฮาเรลสัน , 2.ฟินนิค หรือแซม คลาฟลิน อดีตผู้เข้าแข่งขันจ้าวเสน่ห์จากเดอะ ฮังเกอร์ เกมส์ ครั้งที่ 75, 3.บีที หรือเจฟฟรี ไรต์ อดีตผู้เข้าแข่งขันสมองอัจฉริยะจากเดอะ ฮังเกอร์ เกมส์ ครั้งที่ 75, และ 4.เอฟฟี่ หรืออลิซาเบธ แบงก์ส พี่เลี้ยงของแคทนิสที่เริ่ดที่สุดในพาเน็ม พวกเขาทั้งหมดจะร่วมกันวางกลยุทธ พัฒนารูปแบบการต่อสู้ และที่สำคัญที่สุดคือการทำทุกวิถีทางเพื่อสร้าง ม็อกกิ้งเจย์ หรือ แคทนิส ให้กลายเป็นผู้นำที่สมบูรณ์แบบที่สุดในการต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่กับ แคปิตอล ในครั้งนี้ สู่สงครามม็อกกิ้งเจย์ The Hunger Games: Mockingjay Part I 20 พฤศจิกายนนี้
ตัวอย่างหนังใหม่เรื่อง The Hunger Games: Mockingjay Part I
จำลองภาพมหาสมุทร และพาดำดิ่งสู่ DEEPSEA CHALLENGE 3D
คงไม่มีคำว่าธรรมดา สำหรับผู้ชายคนนี้เมื่อ เจมส์ คาเมรอน เปิดตัวภาพยนตร์ผจญภัย-สารคดี 3 มิติ เรื่องล่าสุด DEEPSEA CHALLENGE 3D อย่างยิ่งใหญ่ในบรรยากาศสุดตื่นตะลึงที่ American Museum of Natural History ใจกลางกรุงนิยอร์ค สร้างความรู้สึกเสมือนผู้ชมกำลังนั่งชมภาพยนตร์อยู่ใต้ท้องมหาสมุทร โดยมีโมเดลปลาวาฬยักษ์เท่าขนาดจริงอยู่เหนือผู้ชมทุกคนอย่างชวนตะลึง
ทุ่มสุดใจเพื่อสร้างซุปตาร์เอเชีย มาโกโตะ นำทีม ฟินสุโค่ย
โดยหลังจากที่โปรแกรมหนังเรื่อง ฟินสุโค่ย เป็๋นภาพยนตร์จากความร่วมมือกันระหว่างไทย-ญี่ปุ่นได้เหินฟ้าไปฉายรอบ World Premiere ในเทศกาลภาพยนตร์เมือง Osaka Asian Film Festival 2014 เมื่อต้นปีที่ผ่านมาและโดนใจชาวญี่ปุ่นไปเต็มๆ กระแสแรงจนต้องเพิ่มรอบฉายกันเลยทีเดียว ล่าสุดทาง สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล และ ฟิน โปรเจกต์ ก็ได้ประกาศวันฉายของหนังโรแมนติก-คอเมดี้เรื่องนี้ให้คอหนังชาวไทยได้พิสูจน์ความฟินกันแล้วในวันที่ 25 กันยายนนี้ งานนี้เตรียมตัวฟินสุโค่ยกันได้เลย
โดยที่ ฟินสุโค่ย เป็นภาพยนตร์แนววัยรุ่นที่ว่าด้วยเรื่องของมิตรภาพ ความรัก และดนตรีเป็นสื่อกลางโดยได้ผู้กำกับมือรางวัลของเมืองไทยโดย กอล์ฟ-ธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์ มาเป็นผู้สร้างสรรค์ความฟินให้กับหนังเรื่องนี้ และได้คว้าร็อกสตาร์ชื่อดังระดับเอเชียอย่าง มาโกโตะ โคชินากะ แห่งวง ลูซิเฟอร์ (Aucifer) ขวัญใจชาวเจ-ร็อกที่มีแฟนคลับอยู่ทั่วเอเชียรวมไปถึงประเทศไทยอย่างมากมาย มารับบทนำในหนังสัญชาติไทยเรื่องนี้เป็นครั้งแรก และยังได้นักแสดงชื่อดังของเมืองไทยมาร่วมกันฟินกันอย่างคับคั่งนำทีมโดย
1.สายป่าน หรืออภิญญา สกุลเจริญสุข
2.เต๋า หรือเศรษฐพงศ์ เพียงพอ
3.ติ๊นา หรือศุภนาฏ จิตตลีลา
4.กาย หรือนวพล ลำพูน
5.ภีม หรือภาคิน บวรศิริลักษณ์ ฯลฯ
ซึ่งเรื่องราวทั้งหมดจะมาร่วมกันสร้างความฟินไปกับเรื่องราวความรักของวัยรุ่นยุคใหม่ซึ่งจะสะท้อนให้เห็นมุมมองหลายด้านของความรักและมิตรภาพบนความสัมพันธ์ที่สลับซับซ้อน
โดยทางผู้กำกับธัญญ์วารินได้พูดถึงแรงบันดาลใจในการทำหนังเรื่องนี้ว่า แรงบันดาลใจในการทำหนังเรื่องนี้มาจากการที่เราชอบอ่านการ์ตูนญี่ปุ่นมีเรื่องนึงที่ชื่อว่า จังหวะร็อก ดนตรีรัก ก็ถือเป็นแรงบันดาลใจส่วนหนึ่ง แล้วเราก็เอาประกอบกับการ์ตูนที่เป็นที่มาของวงมาโกโตะ เพราะว่าวงลูซิเฟอร์ก็มาจากญี่ปุ่น เราก็เอาตรงนั้นมาเป็นเหมือนกับคอนเซ็ปต์ของหนังที่มีผู้หญิงซึ่งคลั่งไคล้นักร้อง เจ-ร็อก คือนอกจากที่จะมีตัวสายป่านแล้ว มันก็ยังมีตัวละครแวดล้อมที่มีผลกระทบ เพราะเราคิดว่าการที่คนๆ หนึ่ง เป็นแฟนคลับของนักร้องที่เราฝันจะใกล้ชิด แล้ววันหนึ่งได้เข้าไปอยู่ใกล้ชิดจริงๆ มันจะมีผลกระทบอะไรกับคนเหล่านี้ ทั้งความรักและมิตรภาพ เรารู้สึกว่าตรงนั้นมันเป็นเรื่องที่เราสนใจ
โดยเรื่อง ฟินสุโค่ย นั้นเป็นเรื่องของผู้หญิงคนหนึ่งที่ชื่อว่าหนูนา หรือสายป่าน ซึ่งมีแฟนอยู่แล้วก็คือเสือโคร่ง เต๋า เศรษฐพงศ์ แต่ตัวหนูนาชอบและก็เป็นแฟนคลับของมาโกโตะ พอมาโกโตะได้เข้ามาเปิดคอนเสิร์ตและก็มาหานางเอกเอ็มวีที่เมืองไทย หนูนาก็พยามทำทุกอย่างให้บรรลุความฝันที่จะได้ไปอยู่ใกล้ๆ กับมาโกโตะ แต่พอได้ใกล้กันอย่างที่ฝันแล้ว ความสัมพันธ์กับแฟนตัวเองและกับเพื่อนในกลุ่มที่มีอยู่ ทั้ง 1.หมูแฮม 2.ติ๊นา กับ 3.ไก่โต้ง 4.กาย ก็ได้มีบางอย่างเกิดขึ้น ที่ผลมาจากความฟินของหนูนา มันก็อลวนวุ่นวายกันไปหมด แต่จะลงเอยยังไง ต้องไปหาคำตอบกันในหนัง งานนี้ต้องติดตามว่าซุปตาร์เอเชียอย่าง มาโกโตะ และนักแสดงวัยรุ่นมากฝีมือของเมืองไทย จะมาร่วมกันถ่ายทอดความฟินให้หัวใจคุณกันขนาดไหนใน ฟินสุโค่ย เตรียมฟินเว่อร์ทุกโรงภาพยนตร์ 25 กันยายน นี้แน่นอน
โดยทางผู้กำกับธัญญ์วารินได้พูดถึงแรงบันดาลใจในการทำหนังเรื่องนี้ว่า แรงบันดาลใจในการทำหนังเรื่องนี้มาจากการที่เราชอบอ่านการ์ตูนญี่ปุ่นมีเรื่องนึงที่ชื่อว่า จังหวะร็อก ดนตรีรัก ก็ถือเป็นแรงบันดาลใจส่วนหนึ่ง แล้วเราก็เอาประกอบกับการ์ตูนที่เป็นที่มาของวงมาโกโตะ เพราะว่าวงลูซิเฟอร์ก็มาจากญี่ปุ่น เราก็เอาตรงนั้นมาเป็นเหมือนกับคอนเซ็ปต์ของหนังที่มีผู้หญิงซึ่งคลั่งไคล้นักร้อง เจ-ร็อก คือนอกจากที่จะมีตัวสายป่านแล้ว มันก็ยังมีตัวละครแวดล้อมที่มีผลกระทบ เพราะเราคิดว่าการที่คนๆ หนึ่ง เป็นแฟนคลับของนักร้องที่เราฝันจะใกล้ชิด แล้ววันหนึ่งได้เข้าไปอยู่ใกล้ชิดจริงๆ มันจะมีผลกระทบอะไรกับคนเหล่านี้ ทั้งความรักและมิตรภาพ เรารู้สึกว่าตรงนั้นมันเป็นเรื่องที่เราสนใจ
โดยเรื่อง ฟินสุโค่ย นั้นเป็นเรื่องของผู้หญิงคนหนึ่งที่ชื่อว่าหนูนา หรือสายป่าน ซึ่งมีแฟนอยู่แล้วก็คือเสือโคร่ง เต๋า เศรษฐพงศ์ แต่ตัวหนูนาชอบและก็เป็นแฟนคลับของมาโกโตะ พอมาโกโตะได้เข้ามาเปิดคอนเสิร์ตและก็มาหานางเอกเอ็มวีที่เมืองไทย หนูนาก็พยามทำทุกอย่างให้บรรลุความฝันที่จะได้ไปอยู่ใกล้ๆ กับมาโกโตะ แต่พอได้ใกล้กันอย่างที่ฝันแล้ว ความสัมพันธ์กับแฟนตัวเองและกับเพื่อนในกลุ่มที่มีอยู่ ทั้ง 1.หมูแฮม 2.ติ๊นา กับ 3.ไก่โต้ง 4.กาย ก็ได้มีบางอย่างเกิดขึ้น ที่ผลมาจากความฟินของหนูนา มันก็อลวนวุ่นวายกันไปหมด แต่จะลงเอยยังไง ต้องไปหาคำตอบกันในหนัง งานนี้ต้องติดตามว่าซุปตาร์เอเชียอย่าง มาโกโตะ และนักแสดงวัยรุ่นมากฝีมือของเมืองไทย จะมาร่วมกันถ่ายทอดความฟินให้หัวใจคุณกันขนาดไหนใน ฟินสุโค่ย เตรียมฟินเว่อร์ทุกโรงภาพยนตร์ 25 กันยายน นี้แน่นอน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น